วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557

Bantering, 5



Bantering, 5
ไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง




จาวา
ปวดหัวจังเลย,
ร่างกายทำไมถึงรู้สึกเจ็บไปหมดแบบนี้ แล้วทำไมถึงรู้สึกเหมือนไม่อยากเดินไปไหน ทางข้างหน้าทำไมมันมืดสนิทแบบนี้ละครับ?
พ่อช่วยจาด้วย จากลัว L
“จาวาลูกรักของแม่” นั่นเสียงใครนะ แม่เหรอ? ผมมีแม่เหมือนคนอื่นเค้าด้วยใช่ไหม ใช่ผู้หญิงตรงหน้าผมหรือเปล่าแม่ผมสวยจังเลยครับ
“แม่”
“แม่เอง แม่รักหนูนะลูก”
“อะอึก แม่มารับจาใช่ไหม? พ่อจอมพลใจร้าย” ผมร้องไห้ออกมาก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดแม่ ทำไมมันอบอุ่นแบบนี้นะ รู้สึกเหมือนไม่อยากตื่นเลยทีเดียว
“จาไม่ได้ฝันไปใช่ไหมครับแม่”
“ไม่! แม่ไม่ได้มารับหนู แม่แค่มาบอกลา”
“แม่จะทิ้งจาอีกแล้วใช่ไหม?” ผมรีบถอยห่างมองหน้าแม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจทั้งๆ ที่พวกเราเพิ่งเคยเจอกันแท้ๆ แต่ทำไมแม่ถึงมาบอกลา
“ตอนนี้แม่ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว แม่ขอโทษที่ดูแลหนูไม่ได้แต่แม่อยากให้หนูรู้เอาไว้ว่าแม่รักจาวาที่สุดเค้าจะดูแลลูกแทนแม่”
“ฮือๆ พ่อไม่ต้องการจา”
“ไม่ใช่,แม่ไม่ได้หมายถึงพ่อเลี้ยงแต่ลูกก็อย่าคิดแบบนั้นเค้ามีบุญคุณกับพวกเราสองคนมากนะ” แม่ยื่นมือมาปาดน้ำตาให้กบผมอย่างอ่อนโยน “แม่ต้องไปแล้ว
“แม่อย่าเพิ่งไปสิ แม่ แม่ครับ”
ฮือๆ ทำไมแม่ถึงทิ้งผมไป แล้วผมจะอยู่กับใครโลกนี้ไม่มีใครรักผมจริงๆ สักคนมีแต่คนที่ไม่ต้องการผม
!!!
“จา” นี่เสียงพ่อหรือเปล่า ทำไมมันฟังดูห่างไกลเหลือเกินพ่อใช่ไหม? พ่อจะมาช่วยจาแล้วใช่ไหม?
“พ่อ พ่อจริงๆ ด้วย”
“พ่อขอโทษ”
“ฮือๆ พาจากลับบ้านนะพ่อ ที่บ้านหลังนั้นไม่มีใครรักจาสักคน” ผมร้องขอทั้งน้ำตากอดพ่อเอาไว้จนแน่น แต่พ่อกลับผละออกไปก่อนจะถอยห่างออกจากผมราวกับว่าท่านเองก็ไม่ต้องการผม
“พ่อจะทิ้งจา พ่อไม่รักจาแล้วใช่ไหม”
“พ่อรักจาเสมอ แต่ข้างหน้ายังมีคนที่รักจาอยู่มากกว่าพ่อรีบกลับไปละ? พ่อยังอยู่กับจาเสมอยังรักจาเหมือนเดิม แล้วเจอกันใหม่นะลูกรัก”
พ่อไปแล้ว ถึงเค้าไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของผมแต่อย่างน้อยเค้าคือคนเดียวที่ผมคิดว่าจะไม่ทอดทิ้งผมแน่นอนแต่ทำไมตอนนี้เค้าถึงทิ้งผม ทางที่มืดมิดแบบนี้ผมจะเดินต่อไปยังไง ผมไม่รู้ว่าต้องเดินกลับไปเส้นทางไหน
โลกนี้ไม่มีใครต้องการผมสักคน
“กลับมาได้แล้วเด็กดื้อ ฉันยังอยากได้ยินเสียงอาละวาดของนายอยู่นะรีบๆ กลับมาละฉันรออยู่”
เสียงใครนะ? ทำไมฟังดูอบอุ่นจังเลย แสงสว่างข้างหน้าใช่ทางที่ผมต้องเดินไปหรือเปล่า ใช่ทางนี้ใช่ไหมอย่าเป็นทางตัน อย่าเป็นเส้นทางที่ผมคิดผิด
ผมเลือกทางนี้แล้วอย่าทิ้งผมไว้คนเดียวอีกนะ ผมกลัว

อื้อ
“ยะอย่าทิ้งผม!” นี่สินะสิ่งแรกที่ผมรับรู้หลังจากที่ทุกอย่างกลับมา ผมฝันแปลกๆ ผมฉันเห็นแม่ ฝันเห็นพ่อแต่พวกท่านกลับเดินจากผมไปแต่คนที่ผมไม่เห็นหน้าได้ยินแค่เพียงเสียงคือคนเดียวที่ปลุกผมให้ตื่นจากฝัน
เค้าเป็นใคร? แล้วเค้าจะทิ้งผมไปไหม

“คุณหนูจา” ผมมั่นใจว่าตัวเองตื่นจากฝันแล้วแน่นอนแต่ที่แน่ๆ ผมอยู่ที่ไหน บ้านของตัวเองหรือกลับมาอยู่ในจุดๆ เดิม เมื่อกี้เสียงที่ร้องเรียกชื่อผมก็คงจะเป็นมาลีกับมาลัยสินะ
ผมค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่ความพยายามมันก็ยากลำบากเหลือเกินเพราะเสียงที่ส่องผ่านเข้ามาในห้องทำให้ผมรู้สึกแสบตาไปหมดผมไม่อยากตื่นแต่มีบางอย่างที่ผมอยากจะพิสูจน์

“มาลี มาลัย” สุดท้ายความพยายามของผมก็สำเร็จ ผมลืมตาขึ้นมาก่อนจะจ้องมองไปยังสองคนที่ยืนดูผมรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเธอ ผมค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงขอบเตียงแต่ทว่ารู้สึกเจ็บขามากๆ

“อาวุธ” มันคือสิ่งแรกที่ผมนึกถึงหลังจากที่ตั้งสติของตัวเองได้แล้ว ผมจำได้ว่าเค้าเป็นคนไปช่วยผมและแน่นอนว่าก่อนที่ผมจะสลบไปเสียงปืนก็ดังขึ้นมาด้วยนี่

“คุณหนูจาจะไปไหนค่ะ เดี๋ยวสายน้ำเกลือก็หลุดกันพอดี” เสียงของมาลัยดังขึ้นมาแต่ผมกลับไม่สนใจ ผมก้มลงมองแขนของตัวเองที่มีเข็มทิ้มอยู่ด้านในก่อนจะดึงมันออกเลือดไหลแต่กลับเจ็บสุดๆ TwT

“โอ๊ย! เจ็บ”

“คุณหนูจา อย่าวิ่งนะคะ” ร้องออกไปก็เท่านั้นแต่ผมกลับวิ่งออกมาจากห้อง ผมเหนื่อยมากๆ แต่ความรู้สึกกลัวกลับไม่หายไป ผมมั่นใจว่าตัวเองเกลียดเค้าแต่ที่แน่ๆ ทำไมผมถึงรู้สึกแย่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น เค้ายอมโดยซ้อมเพื่อช่วยผม
ผมก็แค่อยากรู้ว่าทำไม?
“คุณหนูจา อย่าวิ่งสิค่ะแผลที่ต้นขาจะแย่ได้นะ” ผมวิ่งทั้งๆ ที่เรี่ยวแรงไม่มีก้มมองลงไปที่ต้นขาด้านซ้ายของตัวเองเลือดกำลังซึมออกมาจากกางเกงขายาวสีขาวเลยละครับ รวมไปถึงที่หลังมือผมด้วย
ทำไมต้องทำตัวบ้าเลือดขนาดนี้ด้วยนะเนี่ย?


เพี๊ยะ!
นี่มันเสียงคนถูกตบใช่ไหม? แล้วใครกันที่ถูกตบผมหยุดวิ่งก่อนจะค่อยๆ หันไปมองรอบบริเวณนี้สายตาก็หันไปเห็นห้องๆ หนึ่งถูกเปิดแง้มไว้ด้านในมีคนอยู่ประมานสี่ถึงห้าคนแต่ที่แน่ๆ สองในห้าคือคนที่แสนคุ้นเคย มาลีกับมาลัยที่วิ่งตามผมมาไม่กล้าเข้าไปด้านในด้วย
ผมจึงค่อยๆ ก้าวเท้าเดินไปอย่างช้าๆ ความรู้สึกเจ็บปวดกำลังกัดกินตามร่างกายแต่ไม่รู้ทำไมผมอยากจะเข้าไปด้านในนั้นเหลือเกิน เข้าไปห้าม!!!
“พ่อเดือนสิบสอง” นี่หรือเปล่าคำพูดในฝันที่พ่อบอกว่าค่อยเจอกันใหม่ งั้นก็แสดงว่าพ่อต้องรู้แล้วสินะว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง

“จา” ทั้งพ่อและเดือนสิบสองเรียกชื่อของผมพร้อมกัน รวมไปถึงสายตาทุกคู่ในห้องนี้ที่จ้องมาทางผมร่างกายมันแย่มากๆ จนแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะยืน พ่อจ้องหน้าผมก่อนจะวิ่งเข้ามาหาท่านรับผมไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้น
“พ่อขอโทษ”

“ฮือๆ จากลัว” ผมกอดพ่อเอาไว้จนแน่น น้ำตาไหลออกมาอย่างต่อเนื่องบรรยากาศในห้องนี้ไม่ค่อยดีเลย
ผมไม่ได้กลัวอย่างที่บอกพ่อไป ไม่รู้สิครับแต่ความกลัวของผมมันหายไปตั้งแต่ที่เห็นหน้าคนไปช่วยแล้วทำไมกันนะ!!!

“นี่! วิ่งออกมาทั้งสภาพแบบนี้สินะบ้าหรือเปล่า” เสียงของเดือนสิบสองดังขึ้นมาก่อนที่จะมองผม หมอนี่ดูเปลี่ยนไปมากเลยครับแต่ผมว่าคงจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีสินะ

“ผมขอโทษที่ทำให้จาต้องเจ็บตัว” เสียงของเค้าดังขึ้นมาใบหน้าหล่อดูเศร้ามากๆ แถมหัวคิ้วของเค้าก็มีพาสเตอร์แปะเอาไว้ด้วย แววตาที่อ่อนลงจ้องมาทางผมอย่างรู้สึกผิด

“ยังมีหน้ามาขอโทษอีกเหรอ ฉันจะพาลูกกลับบ้าน ฮึย!
พ่อผละออกไปจากตัวผมก่อนที่จะตรงไปหาคุณอาวุธ พ่อกระชากคอเสื้อของเค้าเอาไว้พร้อมทั้งง้างมัดขึ้นผมนึกกลัวขึ้นมาทันทีก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปห้ามแต่ร่างกายมันไม่ไหวเกือบจะเซล้มลงไปแต่เพราะต้นแขนแข็งแกร่งค่อยกระชับเอวของผมเอาไว้จึงทำให้การทรงตัวดีขึ้นมา

“พ่อเค้าช่วยจาไว้นะ” ผมร้องห้าม พ่อมองงหน้าผมอย่างไม่เข้าใจก่อนจะผละออกไปเพราะถูกเดือนสิบสองกระชากเอาไว้ ส่วนผมก็ยืนได้เพราะมีแขนแกร่งช่วยเอาไว้

“ช่วยให้แย่ลงนะเหรอ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าจาจะต้องปลอดภัยเมื่อมาอยู่ในดงปืน” พ่อดูจะโกรธมากที่ครั้งนี้ผมถูกจับตัวไปและเกือบแย่ แต่ก็นะถ้าไม่ใช่เพราะเค้าผมก็คงไม่รอดเหมือนกันแต่ดูเหมือนว่าเป้าหมายของผู้ชายคนนั้น แค่จับตัวผมไปและต่อรองกับคุณอาวุธซะมากกว่า

“นี่พ่อเลี้ยง! พอได้แล้วหัดเกรงใจคนแก่บ้างสิ ไม่เห็นเหรอว่าท่านก็ยืนอยู่ด้วยนี่ถ้ารู้ว่ามาแล้วจะอาละวาดขนาดนี้นะ ไม่ยอมให้มาหรอกและอีกอย่างไอ้จายังไม่ตายซะหน่อย อย่ามาเหวี่ยงไปหน่อยเลย ตัวเองแท้ๆ ที่ยอมให้มันมากับเค้าแล้วทีนี้จะมาพากลับ ใครเค้าจะบ้าปล่อยเมียตัวเองกลับละถึงเป็นพ่อของมันก็เหอะ”

“เดือนสิบสอง!
คงไม่ใช่แค่ผมที่อึ้งแต่ต้องรวมทุกคนในห้องนี้มั้งครับ ไอ้คุณหนูจัดได้ว่าเป็นพวกที่ไม่ค่อยแคร์ใครแถมคำพูดของมันก็เคยแคร์ว่าคนที่ได้ยินจะรู้สึกยังไงด้วยสิครับ พูดง่ายๆ มันไม่รู้จักคำว่าอายแต่ที่แน่ๆ พ่อผมกลัวเมียสินะถึงกับนิ่งไปเลยทีเดียว

“หรือจะเถียง ถ้าพาไอ้จากลับผมไม่กลับหรอกน่ะจะอยู่ที่นี่แหละ ชิส์!

“นี่!!!

“ปู่ขอตัวก่อนละกันจะได้คุยกันสะดวกหน่อย ซินพาปู่ไปพักผ่อนหน่อยสิ”

“ค่ะปู่” ท่าทางท่านจะหนักใจซะมากกว่านะครับถึงได้ยอมออกไปแบบนี้แล้วไม่ยุ่งเกี่ยว ทั้งๆ ที่ท่านแท้ๆ คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมต้องมาอยู่ที่นี่แต่ดันหนีออกไปซะงั้น

“ผมขอโอกาสได้ไหม?” คนด้านหลังกระชับอ้อมแขนที่กอดเอวผมไว้แน่นกว่าเดิมพร้อมทั้งเอ่ยออกมา ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแต่คำพูดของเค้าทำให้หัวใจผมเต้นแรง

“ตกลงครับ!

“เดือนสิบสอง” พ่อไม่ใช่คนตอบคำถามแต่ที่แน่ๆ การตัดสินใจของพ่อเดือนสิบสองจะเป็นฝ่ายตอบแทนทั้งนั้นถึงพ่อจะไม่ยอมแต่ไอ้คุณหนูเองก็คงจะไม่ยอมเหมือนกัน
“ฉันไม่ให้!

“งั้นก็ดีเชิญกลับตรังไปคนเดียวละกัน”

“อย่ามางอแงนะ นี่มันเรื่องใหญ่”

“จะใหญ่แค่ไหนกันถึงยังไงไอ้จาก็มีสามีไปแล้วหรือพ่อเลี้ยงจะเถียงว่าไม่ใช่ ถ้าเป็นห่วงมันแล้วจะยกให้เค้าทำไม ผมว่าพ่อเลี้ยงควรจะปลงได้แล้วเพราะถึงยังไงไอ้จาก็ไม่มีวันกลับหรอก”

“รู้ได้ยังไง?”

“เชื่อสิ! เพื่อนกันย่อมรู้ดีไม่เชื่อถามมันดู” ผมอยากฆ่าเดือนสิบสองทิ้งจังเลยครับเหมือนหมอนี่จะรู้ดีเหลือเกิน ขนาดผมยังไม่รู้เลยว่าทำไมตัวเองถึงยังไม่อยากกลับไปกับพ่อทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ผมพยายามเรียกร้องอิสระของตัวเองแทบแย่

“ผมยังไม่อยากกลับตอนนี้” พ่อดูโกรธมากๆ ที่ผมบอกท่านไปแบบนั้นก่อนจะมองหน้าผมสลับกับคนด้านหลัง พ่อถอนหายใจอย่างปลงๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้เพราะถึงพูดให้ตายผมก็ไม่กลับอยู่ดี

“นี่ไอ้จา! คนแกน่ะมันส์ดีอย่าลืมที่เคยสอนไว้ละ ฮาๆๆๆ” เดือนสิบสองก้มหน้าลงมากระซิบข้างหูของผมรู้สึกเขินจนหน้าร้อนผ่าวเลยทีเดียว “ผมฝากเพื่อนด้วยนะครับ ดื้อไปหน่อยแต่รับรองแซ่บ”

“ไอ้คุณหนู”

“ฮาๆ ไปละ ขอตัวไปง้อพ่อเลี้ยงหน่อยบ๊าย”

“ไม่เปลี่ยนใจเหรอ” หลังจากที่ทั้งห้องเหลือแค่เราสองคน เสียงของเค้าก็ดังขึ้นมาแต่มันจะดีเหรอที่จู่ๆ ก็ก้มลงมากระซิบข้างหูผมแบบนี้ ขนาดเมื่อกี้ยังเขินกับคำพูดของไอ้คุณหนูไม่หายเลยแล้วนี่อะไรดันมากระซิบข้างหูอีกคน

“ก็ได้นะพ่อคงยังไม่กลับออกไป”

“ฉันแค่ล้อเล่นกลับไปทำแผลที่ห้องกันเถอะ” ผมดึงมือที่ถูกรั้งเอาไว้ออกก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำหน้าเค้าไป รู้สึกหมั่นไส้น้ำเสียงเมื่อกี้สุดๆ ราวกับว่าผมพ่ายแพ้แบบไม่ต้องคิดเลยละครับ แพ้ราบคาบ!!!
หมับ
“งื้อออออออ” ผมร้องครางกอดคอคนที่อุ้มผมเอาไว้จนแน่นเพราะกลัวตก จะไม่กลัวได้ยังไงในเมื่อผมเดินอยู่ดีๆ แต่เค้ากลับอุ้มผมซะตัวลอยแบบไม่ทันตั้งตัว

“ถ้าดิ้นแล้วตกลงไปไม่รู้ด้วยนะ” ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะยอมอยู่นิ่งๆ ไม่ดื้อไม่ซนเพราะกลัวตก แผลที่ขายังไม่หายแถมที่หลังมือยังมีเลือดไหลซึมออกมาอยู่เลย บ้าเลือดได้ขนาดนี้ไม่ร็ว่าเพราะอะไรแต่ที่แน่ๆ บ้าโคตรๆ

“โอ๊ย! เจ็บพอแล้ว ทำไมไม่ให้หมอมาทำให้” ผมร้องถามขึ้นมาหลังจากที่เค้าอุ้มผมกลับมาถึงห้องแล้วลงมือทำแผลให้ มือหนักเป็นบ้า
TwT


“ฉันบอกให้วิ่งออกไปทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองเจ็บอยู่แบบนี้เหรอ แล้วคราวหลังก็ไม่ต้องบ้าเลือดถอดสายน้ำเกลือแบบนี้ด้วย”
ผมเบ้ปากใส่เค้าก่อนจะเสมองไปทางอื่นทำเป็นไม่สนใจแต่เปล่าหรอกในใจมันกำลังเต้นอยู่ซะมากกว่า
งื้อ TwT
ไม่เอาอย่าทำร้ายกันแบบนี้สิ มันต้องไม่รู้สึกดี

” ผมเม้มปากเข้าหากันจนแน่น ความเงียบเกิดขึ้นกับพวกเราสองคน รอเวลาให้คนข้างกายทำแผลให้ผมจนเสร็จ

“จาวา” เสียงแผ่วเบาเรียกชื่อของผมอย่างอ่อนโยน ผมค่อยๆ หันกลับไปมองหน้าเค้าสบสายตากันหัวใจก็เต้นแรงเรื่อยๆ
แต่มันกลับเต้นมากขึ้นเหมือนอยากออกมาเต้นด้านนอกเมื่อร่างสูงตรงหน้าลุกขึ้นไปนั่งยองๆ ลงตรงหน้าของผมก่อนที่เค้าจะหยิบแหวนวงเล็กในกระเป๋าเสื้อออกมา แหวนวงที่ผมปาทิ้งกำลังจะถูกสวมกลับเข้ามาที่นิ้วนางข้างซ้ายของผมอีกครั้งแต่มันกลับชะงักอยู่อย่างนั้นก่อนที่ร่างสูงจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม
“จะถอดมันทิ้งอีกไหม?” มันคือคำถามที่กลืนน้ำลายของผมลงคอไปจนหมดเลยทีเดียว รู้สึกว่าคอแห้งขึ้นมาอย่างถนัดตา


“คำถามนี้ต้องการคำตอบนะ” คำพูดที่เร่งรัดให้ผมตอบถูกเอ่ยขึ้นมาอย่างนุ่มนวล แล้วทำไมหัวใจผมมันต้องเต้นแรงอยู่ตลอดเวลาเลยด้วยเนี่ย
-_-‘

“ถอด!” ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องพูดแบบนี้แต่อย่างน้อยแหวนวงนี้คงไม่ใช่ของผมตลอดไปหรอกครับ “เรามาตกลงกันใหม่ดีกว่าไหมอาวุธ”
ผมรู้ว่าเค้าอายุมากกว่าผมแถมดูจากรูปการแล้วคงไล่เลี่ยกับพ่อแน่นอนแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่ยอมเรียกเค้าว่าพี่ แต่ก็นะในเมื่อเจ้าตัวเองก็ไม่ได้ว่าอะไรผมก็ไม่จำเป็นต้องเรียกนิ

“ว่ามาสิก่อนที่แหวนวงนี้จะถูกสวมกลับไปที่เดิมของมันที่ที่มันควรจะอยู่”
ความหมายของประโยคนี้มันคืออะไร แต่รู้ไหมว่ามันทำให้ผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกแม้ว่าแหวนวงนี้จะใช่หรือไม่ใช่ของผมตลอดไปก็ตาม

“ผมจะยอมทำหน้าที่ภรรยาแม้ว่าบางครั้งมันอาจจะดูแย่ไปก็ตามแต่อย่างน้อยจนกว่าแหวนวงนี้จะพบเจ้าของจริงๆ ผมไม่เหมาะกับมันสักเท่าไหร่หรอกนะ”

“หึ! เด็กโง่” คนตรงหน้าแสยะยิ้มขำออกมาจนผมรู้สึกหัวใจพองโต รอยยิ้มแบบนี้ของเค้าผมอยากเห็นมันไปทุกๆ วันเลยละครับ
ผมนิ่งเงียบก่อนที่แหวนวงนี้จะถูกสวมเข้ามาที่นิ้วนางข้างซ้ายมันไม่หลวมหรือคับจนเกินไปแต่มันกลับพอดีเลยต่างหาก
“แหวนวงนี้คนปู่ตั้งใจยกให้น้องจา เพราะฉะนั้นไม่มีใครที่จะเป็นเจ้าของมันได้หรอกครับ”
เค้าเรียกผมว่าน้อง
ยังไงดีละครับ? บอกไม่ถูกแต่ที่แน่ๆ หัวใจมันเต้นจนไม่อยากจะหยุดแล้วละครับรู้สึกว่าหน้าตัวเองจะร้อนผ่าวจนไม่กล้าสบตาเค้าเลยด้วยซ้ำไป

“ก็ดีหย่ากันเมื่อไหร่จะเอาไปขายซะเลย”

“พูดจังเลยนะคำๆ นี้หรือเพราะอยากหย่า” ผมรู้สึกเหมือนเค้ากำลังโกรธ แล้วมีสิทธิ์อะไรละที่จะมาโกรธผมในเมื่อผมไม่รู้เรื่องการจดทะเบียนสมรสนี้ด้วยซ้ำไป

“อย่ามาทำน้ำเสียงแบบนี้นะ! คนที่ต้องโกรธคือคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยไม่ใช่เหรอทำไมเราสองคนต้องมาทำตามคำสั่งของผู้ใหญ่ด้วย” จากที่เมื่อกี้เรากำลังจะตกลงกันดีๆ แต่ดูเหมือนทำไมตอนนี้เรากำลังทะเลาะกันเลยละครับ

“ไหนว่าจะตกลงกันดีๆ แล้วตอนนี้ใครคือคนที่เริ่มโกรธ”

“แล้วไง?”

“มันไม่น่าเป็นคำถามเลยนะครับ” กวนประสาทผมมากๆ ทำไมเมื่อกี้ผมต้องไปพูดคำว่ายอมกับเค้าด้วยนะเนี่ย

“ถึงจะพูดว่ายอมแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ดื้อใส่” เพราะนิสัยนี้มันแก้ไม่หายหรอกครับและผมเองก็อยากเอาชนะด้วย
เพิ่งรู้ว่าตัวเองจะมีนิสัยแบบนี้เพราะเมื่อก่อนมัวแต่ว่าไอ้คุณหนู -_-‘

“อืม!

“บอกไว้ก่อนนะว่าไม่มีใครบังคับคนอย่างจาวาได้” เชื่อเถอะว่าเมื่อกี้ผมบอกว่าจะยอมทำหน้าที่ภรรยาที่ดี แต่ตอนนี้ชักจะไม่แน่ใจแล้วสิ

“ครับ” แต่คำตอบที่ไม่ทุกข์ร้อนของเค้ามันทำให้ผมเริ่มอารมณ์ขึ้น

“และอีกอย่างห้ามทำให้หงุดหงิดด้วย”

“อืม!
ครับ! อืม!
ให้ตายสิเค้ากำลังทำให้ผมหงุดหงิด

“อาวุธ! พูดเป็นแค่คำว่าครับกับอืมงั้นเหรอ? ก็ได้งั้นเราก็ไม่ต้องคุยกันอีก” ผมเชิดหน้าใส่เค้าก่อนจะเบือนหน้าหนี สีหน้าของเค้ามันกำลังเพิ่มความหงุดหงิดให้กับผมและมากขึ้นเรื่อยๆ

“ครับ! แต่น้องจาทำได้เหรอ หึ!

“ฮึย!” ยิ้มอีกแล้วทำไมต้องยิ้มให้ผมตลอดเวลาแบบนี้ด้วยเนี่ย หรือตอนที่ผมถูกยิงแล้วสลบไปเค้าไปทำอะไรแปลกๆ มาหรือเปล่า

เหมือนอาวุธกำลังยอม!!!



___________________________
ครบนะคะ...

หลังจากหายไปนานนนนนนนนนนนนนน!!
จบปิ้ง

27 ความคิดเห็น:

  1. เสียงอารายยยยยย รอรอรอรอรรอรอรอรอ

    ตอบลบ
  2. เสียงอะไรโดนตบหรือยังไง เอ๊ะ!

    ตอบลบ
  3. จาเป็นห่วงอาวุธจนไม่ห่วงตัวเองเลยเหรอ น่ารักจัง
    ♥♥♥♥รักจาวา

    ตอบลบ
  4. เพี๊ยะอะไรรรรรรร

    ตอบลบ
  5. ดีกันแล้ววว ต้องขอบคุณเดือนสิบสองสินะ 555555

    ตอบลบ
  6. เข้าใจกันเเล้ว เพราะเดือนสิบสองช่วยเลยนะเนี่ย

    ตอบลบ
  7. จาน่ารัก
    อาวุธก็น่ารัก อยากเห็นสองคนหวานๆใส่กันเยอะๆอ่ะ
    ^/////^

    ตอบลบ
  8. ทำไมไม่อยากกลับล่ะจา5555555 สงสารหรือว่าอย่องอื่น555555

    ตอบลบ
  9. รักแล้วซิ นู๋จา 5555555

    ตอบลบ
  10. อ่อนโยนขึ้นผิดหูผิดตาแฮะคุณอาวุธ คิคิ

    ตอบลบ
  11. นูเดือนของเรานี่เด็ดข้ามเรื่อง 5555 ต้องขอบคุณหนูเดือนนะไม่งั้นพ่อเลี้ยงคงได้เอาจากลับแล้ว

    ตอบลบ
  12. คุณหนูสอนวิธีมัดใจผัวแก่

    ตอบลบ
  13. จะแผลงฤทธิ์อะไรหนอน้องจา

    ตอบลบ
  14. อยากเห็นสองคนหวานสู้คู่คุณหนูอยู่นะ

    ตอบลบ
  15. หวานกันเต๊อะ เค้ารออยู่น๊า ><

    ตอบลบ
  16. เหมือนจะหวาน 5555
    อัพต่ออออออ

    ตอบลบ
  17. กริ๊ดดด หวานละ >< รอออออ มาต่อไวๆน๊าาา

    ตอบลบ
  18. ทำไรอ่ะ ทำไมถึงยอมนั้นสิ

    ตอบลบ
  19. มาอีกน้า รอตั้งนาน

    ตอบลบ