วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

Bantering, 1





Bantering, 1
นิยายน้ำเน่า


อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
นี่มันอะไรกัน?
แล้วผมอยู่ที่ไหน ทำไมห้องนี้ถึงไม่คุ้นเคยแล้วทำไมในห้องไม่ได้มีแค่ผมแล้วผู้หญิงสองคนที่นั่งในชุดเมดก้มหัวอยู่ปลายเตียง ไม่พูดอะไรสักคำเหมือนคนใบ้!!!!
“ที่นี่ที่ไหน? แล้วพ่อฉันอยู่ไหน”
ผมลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินลงไปตรงหน้าพวกเธอสองคน

เงียบเหมือนป่าช้า

“ตอบสิ!” ผมขึ้นเสียงขู่จนพวกเธอสองคนตกใจแต่ก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองสักที ให้ตายสิเหมือนอยู่กับคนใบ้เลยก็ว่าได้
“ถ้าไม่ตอบ ฉันไปหาคำตอบเองก็ได้” ผมว่าก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

“อย่าไปนะคะคุณหนู” ประสานเสียงกันร้องห้ามผมนึกว่าจะเป็นใบ แต่มีเหรอที่ผมจะเชื่อไม่มีทางซะหรอก ผมรีบวิ่งไปที่ประตูก่อนจะกระชากมันแล้วออกไปด้านนอกให้ตายนี่มันไม่ใช่บ้านผมแล้วนี่มันที่ไหน ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ
โทรศัพท์อยู่ไหน?
รีบคว้ามันออกมาจากกางเกงก่อนจะกดโทรหาพ่อ รอสายนานมากมัวแต่สวีทอยู่กับไอ้คุณหนูหรือไงทำไมถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์ของผมสักที
“ว่ายังไงลูก”
“พ่อ! บอกมานะว่าจาอยู่ที่ไหน จาจำได้ว่านั่งกินข้าวอยู่กับพ่อนะ” หลังจากที่ท่านกดรับผมก็กรอกเสียงออกไปทันที
“นี่จายังไม่เจอหมอนั่นอีกเหรอ”
“หมอนั่นนะใคร? พ่อคิดจะทำอะไรกับจากันแน่หรือว่าได้เมียแล้วลืมลูก” ผมวีนใส่พ่อทันทีท่าทางจะติดนิสัยนี้มาจากไอ้คุณหนู
“ก็

“วางสายซะจาวา!!!!!
ใครมันมาเรียกอีกวะเนี่ย? ไม่ใช่เสียงของพ่อด้วยแล้วมันใคร
พรึบ!!!
รีบหันกลับไปดูมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงโปร่งยืนใส่สูทเต็มความสูงจ้องมองมาจากผม

“จาโอโคไหม?”
“พ่อจาไม่โอเค แล้วที่นี่ที่ไหนแล้วไอ้ผู้ชายบ้าตรงหน้าจาเป็นใคร” ผมร้องถามคนปลายสายถึงยังไงพ่อก็ไม่เห็นหน้าเค้าอยู่ดี แต่อย่างน้อยพ่อน่าจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง
“พ่อว่าคำตอบนี้จาไปถามจากหมอนั่นเองละกัน แค่นี้นะลูกพ่อต้องไปตามเดือนสิบสองกลับตรัง”
“พ่อเดี๋ยวสิพ่อ!!!
ให้ตายสิพ่อกดตัดสายไปแล้ว ท่านไม่สนใจผมเลยตั้งแต่ที่มีเดือนสิบสองตกลงเมียสำคัญกว่าลูกใช่ไหม?
ตอบ!!!!!!!!
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พระเจ้า! แล้วนี่มันบ้านใครกันละครับ L

“เฮ้ย! อย่าเข้ามา!” ผมร้องห้ามเมื่อผู้ชายตรงหน้ากำลังจะเดินเข้ามาหา ข้างกายเค้ามีผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งยืนอยู่ส่วนอีกด้านก็เป็นผู้ชายสูงโปร่งไว้ผมยาวแถมเส้นผมยังดูสลวยอีกต่างหาก แต่ทั้งสองคนกลับไม่กล้ายืนตัวตรงนอกจากจะก้มหัวอยู่อย่างนั้น
อยากจะถามว่าไม่เมื่อยคอกันบ้างเหรอ?

“ไม่มีใครสั่ง ใครสอนเหรอว่าพูดจากับผู้ใหญ่ต้องมีสัมมาคารวะด้วยนะ”
แรง!!!!!!!
เล่นถึงผู้ใหญ่เลยเหรอ ตอนอยู่กับพ่อท่านไม่เห็นพูดจาถึงขนาดนี้เลยแล้วไอ้ผู้ชายบ้าคนนี้เป็นใครกันทำไมต้องมาดุผมด้วย

“ไม่ใช่พ่อ! อย่ามาสั่ง” ผมกัดฟันกำหมัดไว้จนแน่นรู้สึกไม่พอใจและไม่ถูกชะตากับผู้ชายคนนี้มากๆ เลยด้วย
ไม่ชอบ!!!!!!!
“บอกมาว่าที่นี่ที่ไหน แล้วต้องการอะไร?”

“นี่แสดงว่าพ่อเลี้ยงจอมพลยังไม่บอกอะไรอีกเหรอ” เค้าว่าแสยะยิ้มที่มุมปาก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพ่อผมด้วย ขนาดพ่อยังโยนมาให้หมอนี่ตอบเลยและสรุปใครคือคนตอบคำถามให้ผมกระจ่างกันแน่เนี่ย

“พ่อไปเกี่ยวอะไรด้วย”

“พ่อบ้านเอาเอกสารให้เค้าดู” คุณลุงที่ถูกเรียกว่าพ่อบ้านเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมพร้อมกับยื่นเอกสารบางอย่างมาให้ ผมรับเอาไว้ก่อนจะรีบเปิดซองสีน้ำตาลนี้ดูเอกสารอะไรสักอย่างแต่ที่แน่ๆ มันคล้ายใบทะเบียนสมรสเลยครับ
เฮ้ย!
ชื่อผม แต่ทำไมนามสกุลถึงไม่ใช่แล้วนี่อะไรมันลายนิ้วมือผมหรือเปล่า!!!!!!

“นี่มันอะไร?”

“ก็น่าจะอ่านหนังสือออกนะ”

“นี่! โกหกหรือเปล่าแล้วอาวุธนี่มันชื่อใครกัน” ผมถามสีหน้าไม่เข้าใจขมวดคิ้วสงสัยแต่ไม่มีใครตอบอะไรสักคน

“กรุณาสุภาพด้วยครับคุณหนู” คุณพ่อบ้านเอ่ยขึ้นมาแต่คำพูดของท่านเหมือนกำลังดุผม แล้วที่พูดไปเมื่อกี้มันไม่สุภาพตรงไหนก็ไม่ได้หยาบคายออกไปสักคำ

“พ่อบ้านไม่ต้อง บางทีเด็กคนนี้อาจจะต้องฝึกนิสัยตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน!” ยกมือห้ามปรามก่อนจะเดินเข้ามาหาจนผมต้องรีบถอยหนีเค้าจึงยอมหยุดเดิน
“ต่อไปนี้นายต้องอยู่ที่นี่ในฐานะภรรยาของฉัน!!!!!!

“ประสาท!!!!” เค้าพูดจบผมก็สวนกลับไปทันที “ดูปากนะ ฉัน-จะ-กลับ-บ้าน!!!!!!! อย่ามาเล่นตลกกันแบบนี้ ส่วนไอ้ใบบ้าๆ นี่ก็อย่าหวังว่าจะผูกมัดกันได้”
แควก!!!!
ผมฉีกมันจนขาดกระจุยก่อนที่จะปาทิ้งลงพื้นทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ต่างตกใจกันมากกับการกระทำของผมราวกับว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าเค้า ผมแสยะยิ้มอย่างสะใจก่อนที่จะเดินออกมาแต่ทว่า
หมับ!
แขนข้างหนึ่งถูกกระชากกลับไปจนตัวปลิวไปติดแผงอกกว้าง หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกพอตั้งหลักได้ก็รีบดันตัวออกห่างแต่กลับไม่สำเร็จ ร่างสูงตรงหน้าเอื้อมมือข้างหนึ่งของเค้ามาบีบปลายคางของผมให้เงยหน้าขึ้นไปสบตาก่อนจะพูดออกมา

“จำไว้นะจาวา ฉันไม่มีเวลามากพอจะมานั่งเล่นกับเด็กและต่อให้นายอยากจะฉีกกระดาษใบเดียวนั่นไปฉันก็ไม่แคร์เพราะฉบับจริงมันยังอยู่!

“อื้อเจ็บ” ผมร้องครางก่อนจะส่ายหัวไปมาเพราะเค้าออกแรงบีบที่ปลายคางของผมอย่างหนักน้ำตาเล็ดไปเลยทีเดียว
พ่ออยู่ไหน? จาอยากกลับบ้าน!!!!

“อย่ามาทำแบบนี้ อย่ามาผูกมัดกันทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมไม่รู้เรื่องและอย่าหวังว่าผมจะยอมอยู่ที่นี่ หนีไปได้เมื่อไหร่ขออย่าให้เราได้พบได้เจอกันอีกเลยไม่ว่าจะชาติไหนก็ตาม!!!

“หึ! อย่าคิดที่จะโบยบินออกไปจากอ้อมกอดของฉัน”

“อย่าคิดว่าจะบังคับกันได้เหมือนกัน นี่มันชีวิตและหัวใจผม!!!

“ถ้าคิดว่าจะเอาชนะฉันได้ก็ต่อต้านให้ตลอดไปละกันจาวา!!!
พรึบ!
ผมรีบปัดมือที่บีบปลายคางอยู่ออกก่อนจะถอยห่าง จู่ๆ น้ำตาก็ไหลราวกับว่าผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกซะจากจะยอมอยู่ที่นี่กับผู้ชายที่ไม่รู้จักหรือแม้แต่ผู้คนมากมายที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้ด้วย
L
“อ๋อ! ลืมบอกไปอีกอย่างฉันต้องการแค่ชีวิตเพราะหัวใจฉันไม่อยากได้”
พูดจบเค้าก็เดินออกไปเหลือแค่ผมที่ยืนกำหมัดแน่นรู้สึกเจ็บใจกับคำพูดของเค้า แถมผมยังทำอะไรไม่ได้ด้วยสิครับ

“พาคุณหนูกลับไปที่ห้องซะ” คุณพ่อบ้านเอ่ยออกมาก่อนจะเดินออกไปเหลือก็แค่ผมสาวใช้อีกสองคนและผู้ชายผมยาวตรงหน้า

“อย่าทำแบบนี้เลยครับมันไม่ดีต่อตัวคุณ” หมอนี่พูดขึ้นน้ำเสียงเย็นชาชะมัดเลยขนาดใบหน้าของเค้ายังไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลย ผมกลืนก้อนสะอื้นลงไปในลำคอก่อนจะปาดน้ำตาทิ้งด้วยมือทั้งสองข้าง
ไม่มีประโยชน์จะร้องไห้ถ้าอยู่กับคนที่ไม่มีหัวใจ

“ฉันจะต่อต้านทุกอย่าง จะร้ายให้ถึงที่สุดคอยดู” ผมเปล่งเสียงออกไปอย่างเอาเป็นเอาตายก่อนจะกระทืบเท้าเดินออกมาจนสาวใช้ทั้งสองแทบต้องวิ่งเข้ามาหา จะมารยาทอะไรกันนักหนาตอนอยู่บ้านไม่เห็นใครจะบังคับกันขนาดนี้เลย อย่าคิดนะว่าจะยอมให้บังคับกันได้ง่ายๆ ไม่มีทาง
“รู้จักจาวาน้อยไปซะแล้ว หึ!
ปัง!!!
พูดก่อนจะปิดประตูใส่หน้าสาวใช้ทั้งสองคน อยากจะแกล้งในเมื่ออยากดูแลนักรับรองได้ว่าสนุกครับ

ก๊อก ก๊อก
เคาะประตูเสร็จก็เดินตามเข้ามาจะมารยาทอะไรขนาดนั้นหึ! แบบนี้คงแกล้งสนุกกว่าเดิม
“ฉันไม่ได้อนุญาตให้เข้ามา”

“พวกเราขอโทษค่ะ งั้นจะออกไปใหม่นะคะ” ให้ตายสิอะไรจะซื่อปานนี้ ผมอมยิ้มกับท่าทางของสาวใช้ทั้งสองคนที่เดินก้มหน้าออกไปจากห้องก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้นมาเรื่อยๆ ขอโทษทีแต่ตอนนี้อยากอยู่คนเดียว
ครืด ครืด
นั่งคิดอะไรเซ็งๆ อยู่ปลายเตียงเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาผมไม่ได้หยิบมาดูแต่ก็ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนี้จนสายเกือบหลุดก็กดรับทันที
“ฮัลโหล” พอรู้ว่าเป็นเดือนสิบสองผมก็กรอกเสียงออกไปแบบเหนื่อยๆ ก็มันเหนื่อยจริงนี่ครับ
“มึงอยู่ไหนเนี่ย แล้วโทรไปทำไมเพิ่งรับสาย” ถ้าผมรู้ว่าเป็นไอ้คุณหนูนี่จะรีบรับสายทันทีเลยครับเพราะน้ำเสียงของมันกำลังวีนอยู่ -_-!
“กูอยู่กรุงเทพฯ พ่อบ้าส่งกูมาอยู่กับใครก็ไม่รู้” ผมบอกแถมพอนึกถึงเรื่องนี่ขึ้นมาทีไรก็นึกโกรธพ่อจริงๆ ที่ทำแบบนี้กับผมได้ลงคอ “ถ้าเจอพ่อกูเมื่อไหร่ฝากจัดการด้วยนะ” แต่ก็ไม่ลืมฝากฝังนะครับเพราะอย่างน้อยพ่อผมก็ยอมไอ้คุณหนูนี่แบบสุดๆ ไปซะแล้ว
“ดีเลยเพราะกูก็อยากรู้เหมือนกันว่าพ่อมึงจะสิงสถิตอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพฯ ได้บ้าง”
“ถ้าไม่อยู่ที่บ้านก็คอนโดพี่เซย์ แต่เช้าๆ แบบนี้พ่อน่าจะไปดูงานที่โรงแรมว่าแต่พ่อกูไปหามึงแล้วเหรอ?” รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่มันถามถึงพ่อ ถ้าเจอกันแล้วแต่ทำไมไอ้คุณหนูถึงต้องโทรมาถามละ
“เออ! แค่นี้ก่อนนะแล้วกูค่อยโทรไปเล่าให้ฟังใหม่”
ติ๊ด
อ้าปากค้างไปเลยครับ ยังไม่ได้บอกเลยว่าสถานที่ที่บอกไปมันอยู่ที่ไหนบ้าง? ให้ตายสิไอ้คุณหนูขี้วีนแต่ช่างเถอะครับเพราะคนอย่างมันคงมีปัญญาหาพ่อผมเจออยู่แล้ว

“ไม่มีใครเคยสอนเหรอว่าอย่าพูดจาหยาบคาย”
ขวับ! ผมรีบหันไปมองทางประตูทันทีก็เห็นว่าไอ้ผู้ชายบ้าอำนาจกำลังยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองมาทางผมอยู่ สายตาของเค้าดูน่ากลัวชะมัดเลยครับส่วนข้างๆ ก็มีสาวใช้ทั้งสองยืนก้มหน้าอยู่
เกลียดหมอนี่ชะมัดเพราะทำให้ทุกคนต้องเมื่อยคอ!!!

“แล้วไม่มีใครเคยสอนเหรอว่าอย่ามายืนแอบฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์และเคาะประตูทุกครั้งที่ต้องเข้าห้องคนอื่น” ผมลุกพรวดขึ้นจากเตียงจ้องหน้าเค้าอย่างไม่ลดละ แต่ยิ่งจ้องนานๆ เหมือนเป็นผมเองซะมากกว่าที่ต้องยอมแพ้ต่อสายตาเพชฌฆาตนี่

“แน่ใจเหรอว่าตัวเองเป็นเจ้าของห้อง” ผมมองตามปลายนิ้วเรียวที่ชี้ไปยังหัวเตียงเห็นรูปถ่ายใบใหญ่โชว์หราอยู่ด้านบนคล้ายๆ กับโปสเตอร์ทำตัวเหมือนนายแบบเลยแฮะ
อย่าไปคิดเยอะทำไมผมไม่สังเกตให้ดีก่อนนะเนี่ยหน้าแตกไปสิไอ้จา L

“ชิส์!” จิ๊ปากใส่ก่อนจะเบือนหน้าหนีเพราะผมหน้าแตกหมอไม่อยากจะรับเย็บเลยทีเดียว

“ออกไปก่อน” เค้าเอ่ยกับสาวใช้ทั้งสองคนก่อนที่เสียงประตูห้องจะถูกปิดลงเจ้าตัวเดินเหยียดตรงเข้ามาหาผมอย่างมาดเท่ห์เลยทีเดียว หัวใจผมเต้นแรงโคตรๆ พอได้มองหน้าและสบตาเค้าในระยะที่ใกล้นิดเดียวแบบนี้

“อย่าเข้ามาใกล้”

“ทำไม? หรือเพราะกลัวฉัน” ผมอยากจะบอกว่าเกลียดทุกอย่างที่เป็นผู้ชายคนนี้เลยละครับ

“กะกลัวทำไม นี่ก็บอกอยู่ว่าอย่าเข้ามาใกล้ไง”
หมับ! ไม่ทันแล้วละครับเพราะมือหนาแสนกำยำจับเข้าให้ที่ต้นแขนทั้งสองข้างของผมแม้ว่าจะไม่ออกแรงบีบแต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกเจ็บอยู่ดี หัวใจเจ้ากรรมอย่าทำร้ายกันสิจะเต้นแรงทำไมเนี่ย? หมอนี่ก็แค่หล่อคมเข้มแต่ก็สู้พ่อผมไม่ได้หรอกครับ
เค้านิ่งเงียบจ้องหน้าผมก่อนจะลดมือทั้งสองข้างลงแถมมืออีกข้างยังล่วงอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา ผมเงยหน้าขึ้นไปจ้องหน้าเค้าก่อนจะก้มต่ำลงมายังสิ่งของบางอย่างที่เค้าถืออยู่
แหวน
“จะทำอะไร?”

“หึ” ไม่ตอบแต่แสยะยิ้มที่ดูร้ายกาจออกมา ผมทำหน้าตื่นกลัวก่อนจะหันหลังหนีแต่ดันไม่ทันเพราะมือหนาข้างหนึ่งคว้าเข้าให้ที่เอวก็เท่ากับว่าเค้ากำลังกอดผมอยู่จากด้านหลัง
“ถ้าดิ้นฉันจะปล้ำ”

ตึกๆ ตักๆ
หัวใจเต้นแรงปั่นป่วนไปหมดแล้ว หมอนี่ใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรเนี่ยทำไมหัวใจผมถึงรวนแบบนี้
“เฮ้ย!!!” ระหว่างที่ยังอึ้งอยู่มือหนาของเค้าก็ค่อยๆ จับแหวนวงนี้ใส่นิ้วนางข้างซ้ายของผมทันทีและดูเหมือนว่ามันจะพอดีด้วยแฮะ

“หึ! ไม่ยักจะคิดว่าพอดี”

“ปล่อยสิไอ้บ้า” ออกแรงดิ้นก่อนจะหันหน้ากลับมามองเค้าผมกัดริมฝีปากตัวเองเพราะระงับอารมณ์ก่อนจะพยายามถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายตัวเองออกแต่ที่ไหนได้มันถอดไม่ออก ตอนใส่ทำไมมันง่ายละ TwT
หมับ! อื้อ
กำลังวุ่นอยู่กับการถอดแหวนใบหน้าก็ถูกรั้งเอาไว้ก่อนที่ร่างสูงจะประกบลงมากดจูบที่ริมฝีปากผมอย่างฉวยโอกาส ไม่ใช่แค่นั้นแต่เค้ากลับกัดปากของผมแล้วดูดกลืนจนรู้สึกเจ็บมือหนาข้างหนึ่งบีบปลายคางเอาไว้ก่อนที่เรียวลิ้นที่แรกแซงเข้ามา ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจดิ้นไปมาแต่กลับไม่เป็นผลเพราะรสจูบทำให้ผมทำไม่มีเรี่ยวแรงยืนและเหมือนจะยอมในที่สุด
อื้อ!
แค่ก แค่ก
ทั้งครางทั้งสำลักก่อนที่เค้าจะผละออกไป ผมนั่งฟุบลงกับพื้นทันทีไอออกมาหนักขึ้นเพราะจูบเมื่อกี้ทำให้ตัวเองเกือบขาดอาการหายใจตาย
“ไอ้อื้อ >/////////<” จูบอีกแล้วครับ แต่ครั้งนี้ไม่นานเหมือนครั้งแรกแค่แตะลงมาแล้วกัดปากของผมก็เท่านั้นเอง
ช้ำหมดแล้วแถมยังเจ็บอีกต่างหาก ไอ้ผู้ชายซาดิทส์

“ต่อไปนี้ถ้ายังพูดจาหยาบคายให้ฉันได้ยินอีก ฉันก็จะจูบจนกว่านิสัยเสียๆ นี้จะหายไป” เค้าว่าแล้วยิ้มพร้อมทั้งขยี้หัวของผมไปมา เพื่ออะไรทำให้เกลียดขี้หน้ากันได้ตลอดเวลาจริงๆ เลย

“ฉันจะพูดและจะไม่เชื่อฟังด้วย พากลับบ้านเดี๋ยวนี้นะแล้วก็ถอดไอ้แหวนบ้าๆ นี่ออกไปด้วย” ผมร้องลั่นแต่เค้ากลับไม่สนใจ ยืนแสยะยิ้มมองหน้าผมอยู่อย่างเดิม
ก๊อก ก๊อก
เสียงประตูห้องดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปเปิดเผยให้เห็นใบหน้าของผู้ชายผมยาว ผู้ชายเย็นชาระดับชาติ

“มีอะไร?”

“ของที่สั่งมาถึงแล้วครับ”

“เอาเข้ามาได้” ไม่ทันขาดคำผู้คนมากมายก็เดินเข้ามาในห้องในมือก็ถือเสื้อผ้าติดมาด้วย ผมยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะมองทุกอย่างด้วยความสงสัยว่าเอามาทำไมตั้งเยอะแยะ

“คนนี้หรือเปล่าค่ะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาก่อนที่ปลายนิ้วเรียวยาวของเธอจะชี้มาทางผม ไม่ชี้เปล่าแถมยังเดินเข้ามาหาด้วยครับ

“ใช่ วัดตัวได้เลย”
อะไร? วัดตงวัดตัวอะไรกันผมออกแรงจะวิ่งหนีแต่กลับไม่ทันเพราะถูกผู้ชายร่างถึกที่เดินมาด้วยกันกับผู้หญิงคนดังกล่าวรั้งแขนเอาไว้ หันไปมองหน้าคนบงการเพื่อขอความช่วยเหลือแต่เค้ากลับยืนยิ้มกริ่มจ้องหน้าผมปลายนิ้วแตะลงไปที่ปากของตัวเองเหมือนสัญญาณเตือนภัยให้ผมอยู่นิ่งๆ เลยละครับ
เออ! วันนี้ยอม
ผมยอมอยู่นิ่งๆ เป็นเวลานานพอสมควรจนทุกอย่างก็ผ่านไป ผมไม่รู้ว่าพวกเค้าจะวัดตัวผมไปทำอะไรแต่เหมือนจะวัดไปตัดชุดอะไรสักอย่างก็ว่าได้ครับ -_-‘

“เรียบร้อยแล้วค่ะ อีกหนึ่งอาทิตย์ชุดที่สั่งตัดจะมาส่งนะคะ”

“ขอบคุณครับ” ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนสมองผมตั้งตัวไม่ทันเลยก็ว่าได้ครับ แต่จะว่าไปจับใจความได้ว่าตัดชุด

“สั่งตัดชุดอะไรไป” ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะถามคนตรงหน้า ตาแก่บ้าอำนาจก้มลงมาสบตากับผมก่อนจะส่งยิ้มให้เหมือนกำลังเยาะเย้ยแล้วขยี้หัวไปมาเหมือนกำลังหยอกล้อแต่ขอโทษทีไม่ใช่เด็กแล้วนะวุ้ย

“ชุดแต่งงาน”

“ง๊ะ!
ปัง!!!
ประตูห้องถูกปิดใส่หน้าอย่างจังแต่คงไม่อึ้งเท่าคำตอบเมื่อกี้หรอกครับ
“จะบ้าเหรอ? คอยดูนะจะหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้”
ดิ้นพล่านเหมือนคนบ้า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูจะไร้ประโยชน์ซะหมดไหนจะไอ้แหวนบ้าๆ ที่ใส่อยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายนี่อีก มันเรื่องบ้าชัดๆ นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง
ตอบ!

นิยายน้ำเน่าชัดๆ ใครเป็นคนต้นคิดเรื่องแต่งงานเนี่ยเดี๋ยวจะไปเผาบ้านให้คอยดู!!!





_______________________________
ครบ...

ปล.เรื่องจดทะเบียนเค้าก็ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่? ถ้างงหรือมีข้อแนะนำบอกเค้าได้นะคะจะรีบแก้ไข
^____________________________^

#เอาแล้วไง? คุณอาวุธทำอะไรไม่ปรึกษาว่าที่เมียในอนาคตเลย!!!
เจอกันไม่เท่าไหร่ จับเค้าจูบแระ ตอนหน้าคงต้องจับปล้ำ ฮาๆๆๆ

เม้น เม้น เม้น...
จบปิ๊ง!!!!

17 ความคิดเห็น:

  1. ค้างๆๆ มาอัพมาเร็วๆนะ

    ตอบลบ
  2. จาวา เราอยากรู้ชื่อผู้ชายหน้าสวยแต่เย็นชา เปิดประตูออกไปถามให้หน่อยสิ ><

    ปล.อัพเร็วๆนะ จะปูเสื่อรอ..

    ตอบลบ
  3. อ๊ากกก จาวาดื้ออออ

    ตอบลบ
  4. อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    จาวาโวยวายหนักเข้าอีกลูก อย่าให้น้อยหน้าไอคุณหนู
    จัดหนักๆเอาให้บ้านนี้มันแตกไปเลย เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

    ตอบลบ
  5. โหยยยยย สนุกอ่ะ ไรท์มาต่อไวๆนะคะ เค้าจะตามเม้นทุกตอนเลย

    ตอบลบ
  6. ทำไมถึงจับหนูจาวามาแต่งงานได้น้อออ >?<

    ตอบลบ
  7. รออนะฮ่ะ อัพ อัพ อัพ

    ตอบลบ
  8. สงสารจาวา ชอบอาวุธอ่ะ555

    ปล.จาวาชอบว่าเดือนสิบสองขี้วีนนะ ตัวเองก็ไม่เบาเหมือนกัน;)

    ตอบลบ
  9. แอร๊ยยยยยยยยยยยชอบแบบนี้อ่ะ เผด็จการซะเรย อิอิ

    ตอบลบ