วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

Bantering, 3





Bantering, 3
ข้อตกลงระหว่างเรา



จาวา
ผมเกลียดขี้หน้าผู้ชายคนนี้มากๆ เค้าทำหน้าตายแถมยังพูดจาไม่ถูกใจผมอีกด้วย วันแรกที่เราเจอกันเค้าก็ขโมยจูบผมไปอย่างหน้าตายเฉยแต่พอมาวันนี้เค้ากลับบอกว่าจะไม่แตะต้องผมอีกแล้ว หรือเพราะผู้หญิงหุ่นเป๊ะเวอร์คนนั้นกันแน่แล้วหุ่นแบบผมมันผิดตรงไหนหรือผิดที่ผมไม่มีนมแถมมีไอ้นั่นเหมือนเค้า
ไอ้บ้า!!!

“เชี่ย! หางานให้กูแล้วสิ แล้วกูไปเป็นผัวใหม่มึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

“เหอะนากูยืมตัวแป๊บ”
ผมกับไทเปกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่ในขณะที่ตรงหน้าสามีตัวจริงของผมยังยืนอยู่ ก็แค่สามีที่จดทะเบียนสมรสก็เท่านั้นเอง

“หึ!
แค่เนี่ย? ให้ตายสินี่เค้ากำลังยั่วโมโหผมอยู่เหรอให้ตายสิผู้ชายบ้าอะไรเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วชะมัด
“ปู่คงคิดผิดหรือฉันคิดไปเอง”

“คิดอะไรไม่ทราบ ออกไปจากห้องผมได้แล้ว” ผมออกปากไล่ก่อนจะเบือนหน้าหนี ยิ่งมองหน้าผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่ผมยิ่งเจ็บใจเพราะรู้สึกว่าตัวเองจะสู้เค้าไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

” เงียบครับแต่เสียงฝีเท้าที่ก้าวตรงมาหาผมกับไทเปเรื่อยๆ ดังชัดเจนมากจนผมรู้สึกหวั่นใจยังไงก็ไม่รู้สิครับ
“เริงร่ากับผัวใหม่เสร็จก็อย่าลืมกลับไปทำหน้าที่เมียให้กับผัวจดทะเบียนอย่างฉันก็แล้วกัน!!!

ปัง!
อ๊ากกกกกกกกกก!!!
“แรง!” ไม่ใช่เสียงผมแต่เป็นเสียงของไทเปที่พูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะขำจนผมอยากจะฆ่าหมอนี่แทนไอ้แก่บ้าที่เดินออกไปจากห้อง

“อยากตายเหรอ? ฮึย ตั้งแต่เกิดมาไม่มีใครเคยหยามน้ำหน้ากูขนาดนี้มาก่อนเลยนะ”

“นี่จาวา อย่าลืมสิว่ามึงไปยั่วเค้าก่อน”

“ก็กูหมั่นไส้!” ผมรีบเถียง

“เหรอ? แต่กูว่าตอนนี้มึงรีบกลับไปเคลียร์กับเค้าจะดีกว่านะ” ผมรีบหันขวับไปมองหน้าไทเปทันที ทำไมผมต้องไปเคลียร์ด้วยละในเมื่อเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน ถึงจะเป็นแต่ก็ไม่ได้รักกันสักหน่อย

“เพื่อ?”

“ยืนยันหน่อยสิว่ามึงไม่ได้น้อยใจอยู่”

“กูเนี่ยนะ” ชี้นิ้วกลับมาที่ตัวเองตีสีหน้าไม่สนโลก ทั้งๆ ที่ในใจตอนนี้กำลังคิดหนักอยู่ว่าจะเอายังไงดี ผมไม่ได้แคร์นะครับแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่หรือจะพูดให้ถูกผมสงสัยมากกว่าว่าเค้าเป็นอะไร

” ไม่ตอบครับแต่ยืนกอดอกเป็นลูกผู้ดียักคิ้วให้ผมท่าทางเหมือนไอ้คุณหนูมากๆ ไทเปเงียบไปสักพักก็ขยับเข้ามาใกล้ๆ ผมมากกว่าเดิมพร้อมทั้งฝ่ามือที่ยื่นมาตรงหน้าผมแล้วขยี้หัวผมเล่นไปมาเหมือนว่าผมเป็นเด็กน้อยในกำมือมันนั่นแหละครับ
“อย่าทำตัวเหมือนเดือนสิบสองสิ กูละเกลียดชะมัดพวกปากไม่ตรงกับใจเนี่ย? รีบๆ กลับบ้านไปได้แล้วกูจะพักผ่อน”

“ไอ้สัด! กูไม่ใช่ไอ้คุณหนูนะอย่ามาขยี้หัวเล่นสิ” ผมรีบปัดมือมันทิ้งไปก่อนจะถอยหลังหนี
เกลียดท่าทางอวดดีแล้วคิดว่าตัวเองเก่งของไทเปชะมัดแต่ผมกับมันก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรอกครับ

“ไม่ต่างกันหรอก เวลาพวกมึงสองคนโกหกจะหลบสายตา ส่วนกูก็จะจับผิดด้วยการขยี้หัวเล่นยังไงละ?”

“เลิกพล่าม กูกลับก็ได้วะ” พูดจบผมก็กระทืบเท้าเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที จะว่าไปไทเปมันก็พูดถูกเพราะผมมักเห็นมันทำแบบนี้กับเดือนสิบสองบ่อยๆ เวลาที่อยากจะจับผิด แล้วผมไปเหมือนไอ้คุณหนูนั่นตรงไหนในเมื่อผมไม่ได้โกหก จริงๆ นะครับ

“บ๊าย บาย”
หันไปจิกหน้าใส่มันก่อนจะกระชากประตูห้องให้ปิดลงแล้วเดินไปที่ลิฟต์ ให้ตายสินี่ผมต้องกลับไปจริงๆ งั้นเหรอ?
ฮืออออออออออออออออ! แค่คิดก็ไม่อยากแล้ว

สุดท้ายผมก็กลับมาถึงบ้านจนได้!!!
“คุณหนูจา!!!” พร้อมเพียงมากกับน้ำเสียงของมาลีมาลัยที่รีบวิ่งเข้ามาหาผม นึกรำคาญในบางครั้งแต่มันก็ไม่ได้ยาเสมอไป หันไปมองที่ลานจอดรถก็เห็นว่ารถของเค้าไม่อยู่ที่ผมรู้เพราะแอบนับจำนวนรถของบ้านนี้เอาไว้แล้ว
“ยังไม่กลับมาค่ะ”

“ไม่ได้ถาม!
จิ๊! ปากใส่มาลีมาลัยก่อนจะเดินกระทืบเท้าเข้าบ้านไป เจอเข้าให้กับยายป้าหน้าสาวหุ่นเป๊ะเวอร์กำลังยืนกอดอกมองหน้าผมอยู่ ส่วนคุณลุงพ่อบ้านกับบอดี้การ์ดหน้านิ่งก็ยืนอยู่ใกล้ๆ ด้วย อยากจะเดินหนีชะมัด!!!
ชิส์!!!

“ท่าทางนายจะไม่มีมารยาทอย่างที่อาวุธว่าไว้จริงๆ นั่นแหละจาวา” ผมทำเป็นเหม่อไม่สนใจคำพูดของผู้หญิงคนนี้ ส่วนมาลีมาลัยนะเหรอครับไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอด้วยซ้ำนอกซะจากจะก้มหน้าก้มตาอย่างเคย


“แบบนี้คงต้องสอนกันหนักหน่อย”

“สอนอะไร?” รีบหันไปถามน้ำเสียงหวนๆ แบบเด็กที่ไม่รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่หรือจะพูดให้ถูกก็เป็นเด็กนิสัยไม่ดีประมานนั้นแหละครับ

“หึ!

“ขำอะไรไม่ทราบ อย่าคิดนะว่าไอ้ผู้ชายแก่บ้ากามคนนั้นยกย่องเข้าหน่อยแล้วผมจะไม่กล้าทำอะไรคุณ ฮึย! ทำไมบ้านหลังนี้ถึงน่าเบื่อนัก มีแต่กฎ กฎแล้วก็กฎ ตกลงมาเป็นเมียหรือนักโทษกันแน่ โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย”
ทุกคนเงียบกริบกันไปหมดมีก็แต่ผู้หญิงคนตรงหน้าผมนี่แหละครับที่เอาแต่ยิ้มกริ่มท่าทางเหมือนกำลังพอใจอะไรสักอย่าง แต่สายตาเธอกลับไม่ได้มองหน้าผมนอกซะจากจะมองเลยไปด้านหลัง
ขวับ!
ผมเองก็พร้อมจะหันไปมองด้วยเหมือนกัน งานเข้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เมื่อกี้ก็ด่าไปซะเต็มปากเลยทีเดียว อ้าวนั้น! ไม่สนใจผมซะด้วยซ้ำไปก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปเลย

“นี่จาวา” ผมค่อยๆ หันกลับมามองผู้หญิงตรงหน้า กระพริบตาถี่ๆ มองเธอร่างสูงโปร่งหุ่นนางแบบสาวเท้ายาวๆ เข้ามาหาผม “ฉันนะ พี่สาวหมอนั่น”

“วะว่าไงนะ”

“ได้ยินไม่ผิดหรอก อีกอย่างฉันว่าคุณปู่เลือกคนไม่ผิดจริงๆ ด้วยสิโชคดีนะเด็กน้อยเย็นนี้เจอกัน”
พูดจบก็เดินออกไปเลยครับเหมือนวางระเบิดลูกใหญ่เท่าบ้านหลังนี้ไว้ให้ผม ทุกคนเดินออกไปกันหมดแม้แต่มาลีกับมาลัยก็ด้วย เหลือก็แค่ผมคนเดียวกับความรู้สึกหนักอึ้งในสมอง ผมว่าตัวเองด่าผู้ชายคนนั้นไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ยแล้วแบบนี้จะเอาไงต่อดี
เฮ้อ! ถอนหายใจแบบคิดหนักมากๆ เอาวะ! ผิดก็ว่าไปตามผิดแต่ตอนนี้ผมควรจะไปคุยกับเค้าใช่ไหม?

เดินกลับขึ้นมาด้านบนตรงไปที่ห้องก็ไม่มี พอไปที่ห้องก็ไม่มี แล้วตกลงไปอยู่ส่วนไหนของบ้านกันแน่เนี่ย? หรือจะเป็นห้องทำงานไม่ลังเลใจเลยครับที่จะเดินตรงไปหา ผมเคาะประตูพอเป็นมารยาทแต่ก็ไม่ได้รอให้คนด้านในร้องบอกก็เปิดเข้าไปทันทีเห็นว่าเค้ากำลังนั่งก้มหน้าทำงานอยู่ ผมว่าเค้ารู้นะว่าผมเข้ามาแต่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนก็เท่านั้นเอง
” ผมเม้มปากตัวเองเข้าหากันจนแน่นมือทั้งสองข้างก็สอดประสานกันเพื่อให้กำลังใจตัวเอง แต่ที่แน่ๆ ผมต้องทำให้เค้าหันมาสนใจผมซะก่อน
นี่ไอ้จาจำไว้นะ ถ้าอยากได้ให้ยั่ว แต่ถ้าเค้าไม่สนใจก็ยั่วให้สนซะ…’ คำพูดของไอ้คุณหนูมันลอยเข้ามาในหัวผมทันทีเลยละครับ แต่คนนี้ผมไม่อยากได้แค่มีเรื่องจะตกลงกับเค้านิดหน่อยก็เท่านั้นเอง


หมับ!
ผมเดินตรงเข้าไปหาเค้าก่อนจะคว้าปากกาในมือของคนที่นั่งอยู่เอาไว้พร้อมทั้งรั้งเก้าอี้ให้ออกห่างจากโต๊ะทำงานและพาร่างของตัวเองขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักของเค้าทันทีด้วยเหมือนกัน ผมเกือบตกเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวแต่ที่แน่ๆ ยังดีอยู่ที่เค้ารั้งเอวผมไว้ได้ทัน
“ผมจะไม่พูดว่าขอโทษเพราะมันไม่จำเป็นแต่เราต้องมาตกลงกัน” สายตาดุๆ นิ่งเฉยมองผมด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกจนทำให้ผมประหม่าไปเลยทีเดียวเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เค้ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่


“ผมอยากรู้แค่ว่าทำไมเราต้องจดทะเบียนสมรสกัน”

” เงียบมากครับ! ผมเองก็ด้วยพอพูดประโยคเมื่อกี้จบก็เงียบแถมไม่ยอมขยับไปไหนอีกด้วยนอกซะจากว่าเราสองคนจะจ้องหน้ากันอยู่อย่างนี้
“ที่ฉันยอมเพราะมีเหตุผลแต่ถ้าอยากรู้ว่าทำไมเราต้องจดทะเบียนสมรสกันก็คงต้องไปถามปู่ของฉัน”

“มีระยะเวลาไหม?” หลังจากที่เค้าเงียบไปก็พูดขึ้นมาบ้างแต่บางคำพูดผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

“อะไร?”

“เราสองคนต้องมีพันธะต่อกันแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน” นี่มากกว่าที่ผมต้องการรู้เป็นอันดับต่อไป “ผมอยากมีอิสระไม่ใช่อยู่แต่ที่บ้านไปวันๆ แบบนี้”

“ระยะเวลาฉันไม่รู้หรอกนะเพราะคนตัดสินใจคือปู่”

“หึ! คุณจะบอกผมว่าถ้าท่านสั่งให้คุณไปตายก็จะไปงั้นเหรอ ทำไมไม่ปฏิเสธไปละเพราะถึงยังไงเราสองคนก็ไม่ได้รักกันหรือจะพูดให้ถูกไม่มีวันรักกันด้วยซ้ำ ผมเกลียดคุณและคุณเองก็คงเกลียดผมด้วยเหมือนกัน”

“ก็จริง”
ตึกๆ ตักๆ
แล้วทำไมไอ้หัวใจบ้านี่ถึงต้องมาเต้นแรงเอาตอนนี้ด้วยละครับ ทั้งๆ ที่มันน่าจะเต้นตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจกระโดดขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของเค้าแล้วละมั้ง

“งั้นเราต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน” รู้สึกหมั่นไส้สีหน้านิ่งๆ แบบนี้จังเลยครับ พอพูดจบผมก็รีบผละออกจากเค้าทันทีแต่กลับไม่สำเร็จเพราะถูกรั้วเอวเอาไว้

“พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงเปิดตัวนายในฐานะภรรยาของฉัน แต่อย่าดีใจไปเพราะงานนี้คุณปู่ท่านเป็นคนจัดการ”

“ครับ, คุณสามีหุ่นเชิด!” ผมพูดจาเหมือนกำลังเยาะเย้ยเค้าก่อนที่จะผลักอกร่างสูงแล้วเด้งตัวลุกขึ้นจากตักของเค้าโดยทันที ถ้าจะยอมให้คนอื่นบ่งการชีวิตได้ขนาดนี้นะผู้ชายบ้าอะไรก็ไม่รู้
น่าเบื่อ!!!!

วันงาน
ครึกครื้นดีมากครับหลังจากที่เมื่อวานผมกับเค้าก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลยและแน่นอนว่างานวันนี้ถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายที่บ้านหลังนี้ มีพวกนักข่าวแค่ไม่กี่คนที่ได้รับเชิญรวมถึงพวกญาติๆ ของเค้าซึ่งฝั่งผมไม่มีหรือจะพูดให้ถูกพ่อคงตัดหางปล่อยวัดผมไปแล้วละมั้ง TwT
“ทำไมบ้านเงียบ” ผมร้องถามหลังจากที่ตื่นขึ้นมาในตอนสายๆ ของวันนี้ ในบ้านเงียบก็จริงแต่นอกบ้านที่สวนด้านหลังใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำกำลังมีผู้คนมากมายจัดแต่งสถานที่กันอยู่

“คุณอาวุธกับคุณซินไปรับคุณท่านที่สนามบินค่ะ”

“ในที่สุดก็ยอมให้เจอหน้าสักทีนะคุณท่านตัวร้าย” ผมแอบบ่นจนทำให้มาลีกับมาลัยส่งเสียงดุใส่ เพราะเมื่อวานกลางดึกทั้งสองคนอยู่เล่ารายละเอียดของท่านให้ผมฟังจนละเอียดยิบเลยทีเดียว แต่ไม่น่ากลัวอะไรมากมายสักเท่าไหร่?
หึหึ!!!
แบบนี้ต้องสร้างเรื่องสนุกๆ ไว้ต้อนรับหน่อยแล้วสิ
“งั้นก็ออกไปได้แล้ว ใกล้ถึงเวลางานค่อยขึ้นมา”

“แต่ว่า

“มาลี มาลัย”

“รับทราบค่ะ” พอเจอน้ำเสียงดุของผมเข้าหน่อยทั้งสองก็ยอมเดินออกไปอย่างว่าง่าย ผมยิ้มกริ่มอย่างผู้มีชัยเหนือคนอื่นๆ ก่อนที่จะเปิดลิ้นชักหัวเตียงออกมาหยิบยาย้อมผมที่เพิ่งถอยมาใหม่เมื่อวานตอนเย็น อย่าถามว่าออกไปได้ยังไงแต่ที่แน่ๆ ออกไปซื้อมาแล้วล่ะครับ
รู้สึกถึงความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยละครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าท่านจะรับหลานสะใภ้อย่างผมได้หรือเปล่าถ้ารับไม่ได้ผมก็จะได้ไปจากบ้านหลังนี้ซักที แค่คิดก็สนุกแล้วครับ

“จาวาไฟติ้ง!
ผมหายเข้าไปในห้องน้ำเป็นเวลานานพอสมควรเพราะมัวแต่จัดการกับสีผมของตัวเองอยู่ดีนะครับที่ซื้อแบบสระมาไม่งั้นคงจะยุ่งยากไปมากกว่านี้แน่นอน อาบน้ำหรือแช่น้ำเล่นก็ไม่รู้สินะเพราะผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว
“หึหึ! งานนี้สนุกแน่” ยืนมองสภาพหัวของตัวเองที่ผ่านการล้างเรียบร้อยแล้วแบบว่าสีฟ้าอร่ามเชียวครับแต่ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่กว่าตอนกลางคืนจะมองเห็นหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ กลางวันนี้จัดเจนชัวร์

ก๊อก ก๊อก
ยืนมองสภาพของตัวเองอยู่เสียงประตูห้องน้ำก็ถูกเคาะให้ดัง ผมเปล่งเสียงถามออกไปแต่ก็ไม่ยอมเปิดประตูก็ผมยังอาบน้ำไม่เสร็จนี่ครับ
“ใคร?”

“มาลัยเองค่ะ คุณอาวุธสั่งให้เอาเสื้อผ้ามาให้คุณหนูจาค่ะ”

“อ๋อ! วางไว้ที่เตียงเลย”

“คุณอาวุธฝากบอกอีกค่ะถ้าเสร็จแล้วให้รีบลงไปเพราะนี่ก็ใกล้ได้เวลาเริ่มงานแล้ว พวกญาติๆ เริ่มทยอยมากันแล้วค่ะ”

“รู้แล้วๆ”
ว่าไปนั่น รอไปเถอะครับเพราะเวลาของผมยังเหลืออีกเยอะผมไม่สนใจมาลัยก่อนจะหันกลับมาสนใจตัวเองเดินกลับไปที่อ้างอาบน้ำก่อนจะแช่น้ำให้สบายใจต่อไป สรุปเวลาที่ผมอยู่ในห้องน้ำนานเกือบสามชั่วโมงแนะก่อนจะได้เวลาเดินออกมา
ทุกอย่างในห้องดูเงียบสงบมาก ผมเดินไปที่ประตูก่อนจะล็อกลอนให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวาย สายตามองไปที่เตียงก็เห็นว่าชุดสำหรับงานคืนนี้วางอยู่
“อย่าหวังว่าฉันจะใส่ ชิส์!” ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นชุดที่ถูกสั่งตัดวันแรกที่ผมเข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้มั้งครับ ผมเลิกสนใจก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัว เลือกหาเสื้อยืดคอวีเน้นย้ำว่าวีสุดๆ มาใส่พร้อมทั้งกางเกงยีนส์ขาสั้น
เสื้อผ้าพวกนี้ถูกสั่งเก็บไปตั้งแต่วันแรกที่ผมซื้อมาแล้วละครับแต่ด้วยอำนาจของตัวเองและความสะตอนิดหน่อยที่รับปากมาลีมาลัยว่าจะใส่แค่ตอนนอนเท่านั้นผมเลยยังมีมันอยู่ในห้อง แต่ขอบอกว่าผมแค่สร้างภาพไปงั้นแหละ
“ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณปู่จะทำยังไง บางทีอาจเปลี่ยนใจไม่อยากได้ผมเป็นหลานสะใภ้แล้วก็ได้นะครับ”
ผมยิ้มขำกับตัวเองอย่างกับคนบ้าก่อนจะสวมเสื้อผ้าพวกนี้ให้เรียบร้อย เดินออกมาส่องกระจกเพื่อสำรวจความไม่เรียบร้อยของตัวเองญาติมาเยอะแล้วไงในเมื่อคนพวกนั้นไม่ใช่ญาติผมสักหน่อย

ก๊อก ก๊อก
“คุณหนูจาค่ะล็อกห้องทำไม?” เสียงของมาลีดังขึ้นมาที่จำได้เพราะน้ำเสียงจะแหลมกว่าของมาลัยเยอะเลยครับ
และอีกอย่างถ้าไม่ล็อกก็อดทำตัวเป็นเด็กมีปัญหานะสิ
“แล้วนี่ใกล้เสร็จยังค่ะทุกคนรออยู่”

“เสร็จแล้วครับ”
J อาวุธก็อาวุธเถอะ เจอจาวาไปแล้วจะหนาว
แอด///

“ว๊าย! ตาเถน!!!” เสียงของมาลีร้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าห้อง เธอมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลยก็ว่าได้และที่แน่ๆ สีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้พอได้เห็นสภาพที่ไม่เรียบร้อยของผม
“คุณหนูจา!!!” เกือบแล้วครับ มาลีเกือบร้องไห้แล้ว

“ไปเถอะเดี๋ยวแขกจะรอ”

“ไม่ได้นะคะ ถ้าลงไปทั้งแบบนี้คุณอาวุธเธอต้องโกรธมากแน่ๆ แล้วนี่ยังจะสีผมคุณหนูจาอีกไปย้อมตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะตอนสายๆ ยังเป็นสีดำอยู่เลย”

“ย้อมเมื่อไม่นานมานี่เอง ไปเถอะจาหิวแล้ว”

“ไม่ได้ค่ะ ไปเปลี่ยนชุดกับทำสีผมใหม่ก่อนค่ะ” มาลีรั้งแขนของผมเอาไว้สุดชีวิตจนแทบจะลมทับลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียว เปลี่ยนชุดนะอาจจะทันแต่ถ้าย้อมผมกลับเป็นสีดำวันนี้คงไม่ทันแล้วมั้งเพราะนี่งานก็เริ่มไปแล้วด้วย

“มาลีปล่อยจา” ผมชุดกระชากมือของตัวเองให้หลุดจากการจับกุมของมาลีแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายเลยทีเดียวเพราะมาลีดึงมือผมเอาไว้แน่นมากๆ
“บอกให้ปล่อยไง”

“มาลีทำไมยังไม่ตามจาวาลงไปอีก!!!
นั่นไงเสียงของมหาอำนาจดังขึ้นมาแล้ว แถมน้ำเสียงของเค้าก็เหมือนกำลังโกรธด้วย “แล้วนี่ยืนฉุดกระชากอยู่กับใคร เด็กคนนี้ขึ้นมาข้างบนได้ยังไง”
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่าทำไมเค้าถึงถามแบบนี้ก็เพราะว่าผมยืนหันหลังอยู่ในขณะที่มาลีกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องสีหน้าท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว เดี๋ยวจะทำให้อึ้งไปมากกว่านี้

“ผมเองครับคุณสามี!
อยากรู้ไหมว่าสีหน้าของเค้าเป็นแบบนี้ ถ้าอยากรู้ก็เดาเลยครับว่าคนที่โกรธมากๆ เค้าจะแสดงออกมายังไงไม่ว่าจะเป็นสีหน้าหรือแม้กระทั่งท่าทางก็ตาม

เค้าเงียบและนิ่งมาก จ้องหน้าของผมราวกับว่าอยากจะฆ่าให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียวและแน่นอนว่าผมต้องการให้มันเป็นอย่างนี้ไม่งั้นคงไม่ลงทุนยั่วโมโหเค้าไปหรอกครับ ที่ผมทำไปทั้งหมดก็เพื่ออยากเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์ของบ้านหลังนี้และผมก็หวังว่าการกระทำในครั้งนี้จะทำให้ชีวิตผมกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักที






____________________________________
ครบ %
ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

#ไม่วายมีคุณหนูเดือนสิบสองแทรกแซง ฮาๆๆๆๆๆ
อย่าไปทำตามนะ ไม่งั้นจะเดินตามรอยชัดๆ เลย


จาวาของเจ้ชอบหาเรื่องใส่ตัวตลอดๆ TwT
#ทำพ่อมาเฟียตัวร้ายโกรธหนักแล้วไง
ตอนหน้าจะพาไปผจญภัยกับมาเฟีย ฮาาาาาาาาาา...
และดงกระสุนปืนนนนนน!!!



15 ความคิดเห็น:

  1. อ๊าว!!! ใมมีแต่รูปเนี่ย!! 0o0 รอต่อปายยยยย

    ตอบลบ
  2. อัพ สิ ค่ะ
    รออยู่ น้าาาาา

    ตอบลบ
  3. เห้ย!! ตัวหนังสือหายไปไหนอ่าาาาาา

    ตอบลบ
  4. เฮ้ย ขอความล่องหนอ่ะ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ช่วยด้วยยยยยยย อิอิ ^^"

    ตอบลบ
  5. อัพต่อเรยสิค่าาาาาา

    ตอบลบ
  6. รอที่เหลือจ้าาา เร็วๆน๊า

    ตอบลบ
  7. ทำไมอาวุธ ทำตัวไม่มีหัวใจแบบนี้อ่ะ(ไม่รักก้ปล่อยไปเซ้)
    น่าตบ!! จริ๊งงง

    ตอบลบ
  8. อัพต่อออ อย่าทำให้ค้างจิ

    ตอบลบ
  9. จาวาแร๊งงงงงงส์ แซ่บอ่ะ 555 มาต่อเร็วๆน๊าา

    ตอบลบ
  10. ค้างงงง อัพไว้ๆนะฮ่ะะ

    ตอบลบ
  11. หึหึหึ จาวามาแบบจัดเต็มค่ะ อิอิ

    ตอบลบ
  12. อร๊ายยยยจัดไปจาวา

    ตอบลบ