Bantering, 3
ข้อตกลงระหว่างเรา
จาวา
ผมเกลียดขี้หน้าผู้ชายคนนี้มากๆ
เค้าทำหน้าตายแถมยังพูดจาไม่ถูกใจผมอีกด้วย
วันแรกที่เราเจอกันเค้าก็ขโมยจูบผมไปอย่างหน้าตายเฉยแต่พอมาวันนี้เค้ากลับบอกว่าจะไม่แตะต้องผมอีกแล้ว
หรือเพราะผู้หญิงหุ่นเป๊ะเวอร์คนนั้นกันแน่… แล้วหุ่นแบบผมมันผิดตรงไหนหรือผิดที่ผมไม่มีนมแถมมีไอ้นั่นเหมือนเค้า
ไอ้บ้า!!!
“เชี่ย!
หางานให้กูแล้วสิ แล้วกูไปเป็นผัวใหม่มึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“เหอะนากูยืมตัวแป๊บ”
ผมกับไทเปกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่ในขณะที่ตรงหน้าสามีตัวจริงของผมยังยืนอยู่
ก็แค่สามีที่จดทะเบียนสมรสก็เท่านั้นเอง
“หึ!”
แค่เนี่ย?
ให้ตายสินี่เค้ากำลังยั่วโมโหผมอยู่เหรอให้ตายสิผู้ชายบ้าอะไรเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วชะมัด
“ปู่คงคิดผิดหรือฉันคิดไปเอง”
“คิดอะไรไม่ทราบ
ออกไปจากห้องผมได้แล้ว” ผมออกปากไล่ก่อนจะเบือนหน้าหนี
ยิ่งมองหน้าผู้ชายคนนี้มากเท่าไหร่ผมยิ่งเจ็บใจเพราะรู้สึกว่าตัวเองจะสู้เค้าไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“…” เงียบครับแต่เสียงฝีเท้าที่ก้าวตรงมาหาผมกับไทเปเรื่อยๆ
ดังชัดเจนมากจนผมรู้สึกหวั่นใจยังไงก็ไม่รู้สิครับ
“เริงร่ากับผัวใหม่เสร็จก็อย่าลืมกลับไปทำหน้าที่เมียให้กับผัวจดทะเบียนอย่างฉันก็แล้วกัน!!!”
ปัง!
อ๊ากกกกกกกกกก!!!
“แรง!”
ไม่ใช่เสียงผมแต่เป็นเสียงของไทเปที่พูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะขำจนผมอยากจะฆ่าหมอนี่แทนไอ้แก่บ้าที่เดินออกไปจากห้อง
“อยากตายเหรอ?
ฮึย… ตั้งแต่เกิดมาไม่มีใครเคยหยามน้ำหน้ากูขนาดนี้มาก่อนเลยนะ”
“นี่จาวา
อย่าลืมสิว่ามึงไปยั่วเค้าก่อน”
“ก็กูหมั่นไส้!” ผมรีบเถียง
“เหรอ?
แต่กูว่าตอนนี้มึงรีบกลับไปเคลียร์กับเค้าจะดีกว่านะ”
ผมรีบหันขวับไปมองหน้าไทเปทันที
ทำไมผมต้องไปเคลียร์ด้วยละในเมื่อเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน
ถึงจะเป็นแต่ก็ไม่ได้รักกันสักหน่อย
“เพื่อ?”
“ยืนยันหน่อยสิว่ามึงไม่ได้น้อยใจอยู่”
“กูเนี่ยนะ”
ชี้นิ้วกลับมาที่ตัวเองตีสีหน้าไม่สนโลก ทั้งๆ ที่ในใจตอนนี้กำลังคิดหนักอยู่ว่าจะเอายังไงดี
ผมไม่ได้แคร์นะครับแค่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่หรือจะพูดให้ถูกผมสงสัยมากกว่าว่าเค้าเป็นอะไร
“…”
ไม่ตอบครับแต่ยืนกอดอกเป็นลูกผู้ดียักคิ้วให้ผมท่าทางเหมือนไอ้คุณหนูมากๆ
ไทเปเงียบไปสักพักก็ขยับเข้ามาใกล้ๆ ผมมากกว่าเดิมพร้อมทั้งฝ่ามือที่ยื่นมาตรงหน้าผมแล้วขยี้หัวผมเล่นไปมาเหมือนว่าผมเป็นเด็กน้อยในกำมือมันนั่นแหละครับ
“อย่าทำตัวเหมือนเดือนสิบสองสิ
กูละเกลียดชะมัดพวกปากไม่ตรงกับใจเนี่ย? รีบๆ กลับบ้านไปได้แล้วกูจะพักผ่อน”
“ไอ้สัด!
กูไม่ใช่ไอ้คุณหนูนะอย่ามาขยี้หัวเล่นสิ” ผมรีบปัดมือมันทิ้งไปก่อนจะถอยหลังหนี
เกลียดท่าทางอวดดีแล้วคิดว่าตัวเองเก่งของไทเปชะมัด…
แต่ผมกับมันก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรอกครับ
“ไม่ต่างกันหรอก
เวลาพวกมึงสองคนโกหกจะหลบสายตา ส่วนกูก็จะจับผิดด้วยการขยี้หัวเล่นยังไงละ?”
“เลิกพล่าม
กูกลับก็ได้วะ” พูดจบผมก็กระทืบเท้าเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที
จะว่าไปไทเปมันก็พูดถูกเพราะผมมักเห็นมันทำแบบนี้กับเดือนสิบสองบ่อยๆ
เวลาที่อยากจะจับผิด แล้วผมไปเหมือนไอ้คุณหนูนั่นตรงไหนในเมื่อผมไม่ได้โกหก จริงๆ
นะครับ
“บ๊าย บาย”
หันไปจิกหน้าใส่มันก่อนจะกระชากประตูห้องให้ปิดลงแล้วเดินไปที่ลิฟต์
ให้ตายสินี่ผมต้องกลับไปจริงๆ งั้นเหรอ?
ฮืออออออออออออออออ!
แค่คิดก็ไม่อยากแล้ว…
สุดท้ายผมก็กลับมาถึงบ้านจนได้!!!
“คุณหนูจา!!!” พร้อมเพียงมากกับน้ำเสียงของมาลีมาลัยที่รีบวิ่งเข้ามาหาผม นึกรำคาญในบางครั้งแต่มันก็ไม่ได้ยาเสมอไป
หันไปมองที่ลานจอดรถก็เห็นว่ารถของเค้าไม่อยู่ที่ผมรู้เพราะแอบนับจำนวนรถของบ้านนี้เอาไว้แล้ว
“ยังไม่กลับมาค่ะ”
“ไม่ได้ถาม!”
จิ๊!
ปากใส่มาลีมาลัยก่อนจะเดินกระทืบเท้าเข้าบ้านไป
เจอเข้าให้กับยายป้าหน้าสาวหุ่นเป๊ะเวอร์กำลังยืนกอดอกมองหน้าผมอยู่
ส่วนคุณลุงพ่อบ้านกับบอดี้การ์ดหน้านิ่งก็ยืนอยู่ใกล้ๆ ด้วย อยากจะเดินหนีชะมัด!!!
ชิส์!!!
“ท่าทางนายจะไม่มีมารยาทอย่างที่อาวุธว่าไว้จริงๆ
นั่นแหละจาวา” ผมทำเป็นเหม่อไม่สนใจคำพูดของผู้หญิงคนนี้
ส่วนมาลีมาลัยนะเหรอครับไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอด้วยซ้ำนอกซะจากจะก้มหน้าก้มตาอย่างเคย
“…”
“แบบนี้คงต้องสอนกันหนักหน่อย”
“สอนอะไร?”
รีบหันไปถามน้ำเสียงหวนๆ แบบเด็กที่ไม่รู้จักเด็ก
รู้จักผู้ใหญ่หรือจะพูดให้ถูกก็เป็นเด็กนิสัยไม่ดีประมานนั้นแหละครับ
“หึ!”
“ขำอะไรไม่ทราบ
อย่าคิดนะว่าไอ้ผู้ชายแก่บ้ากามคนนั้นยกย่องเข้าหน่อยแล้วผมจะไม่กล้าทำอะไรคุณ ฮึย!
ทำไมบ้านหลังนี้ถึงน่าเบื่อนัก มีแต่กฎ กฎแล้วก็กฎ
ตกลงมาเป็นเมียหรือนักโทษกันแน่… โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย”
ทุกคนเงียบกริบกันไปหมดมีก็แต่ผู้หญิงคนตรงหน้าผมนี่แหละครับที่เอาแต่ยิ้มกริ่มท่าทางเหมือนกำลังพอใจอะไรสักอย่าง
แต่สายตาเธอกลับไม่ได้มองหน้าผมนอกซะจากจะมองเลยไปด้านหลัง
ขวับ!
ผมเองก็พร้อมจะหันไปมองด้วยเหมือนกัน
งานเข้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เมื่อกี้ก็ด่าไปซะเต็มปากเลยทีเดียว อ้าวนั้น!
ไม่สนใจผมซะด้วยซ้ำไปก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปเลย
“นี่จาวา…” ผมค่อยๆ หันกลับมามองผู้หญิงตรงหน้า กระพริบตาถี่ๆ
มองเธอร่างสูงโปร่งหุ่นนางแบบสาวเท้ายาวๆ เข้ามาหาผม “ฉันนะ พี่สาวหมอนั่น”
“วะ…ว่าไงนะ”
“ได้ยินไม่ผิดหรอก
อีกอย่างฉันว่าคุณปู่เลือกคนไม่ผิดจริงๆ ด้วยสิ…โชคดีนะเด็กน้อยเย็นนี้เจอกัน”
พูดจบก็เดินออกไปเลยครับเหมือนวางระเบิดลูกใหญ่เท่าบ้านหลังนี้ไว้ให้ผม
ทุกคนเดินออกไปกันหมดแม้แต่มาลีกับมาลัยก็ด้วย
เหลือก็แค่ผมคนเดียวกับความรู้สึกหนักอึ้งในสมอง
ผมว่าตัวเองด่าผู้ชายคนนั้นไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ยแล้วแบบนี้จะเอาไงต่อดี…
เฮ้อ!
ถอนหายใจแบบคิดหนักมากๆ เอาวะ! ผิดก็ว่าไปตามผิดแต่ตอนนี้ผมควรจะไปคุยกับเค้าใช่ไหม?
เดินกลับขึ้นมาด้านบนตรงไปที่ห้องก็ไม่มี
พอไปที่ห้องก็ไม่มี แล้วตกลงไปอยู่ส่วนไหนของบ้านกันแน่เนี่ย? หรือจะเป็นห้องทำงาน…ไม่ลังเลใจเลยครับที่จะเดินตรงไปหา ผมเคาะประตูพอเป็นมารยาทแต่ก็ไม่ได้รอให้คนด้านในร้องบอกก็เปิดเข้าไปทันทีเห็นว่าเค้ากำลังนั่งก้มหน้าทำงานอยู่
ผมว่าเค้ารู้นะว่าผมเข้ามาแต่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนก็เท่านั้นเอง…
“…”
ผมเม้มปากตัวเองเข้าหากันจนแน่นมือทั้งสองข้างก็สอดประสานกันเพื่อให้กำลังใจตัวเอง
แต่ที่แน่ๆ ผมต้องทำให้เค้าหันมาสนใจผมซะก่อน
‘นี่ไอ้จาจำไว้นะ ถ้าอยากได้ให้ยั่ว แต่ถ้าเค้าไม่สนใจก็ยั่วให้สนซะ…’ คำพูดของไอ้คุณหนูมันลอยเข้ามาในหัวผมทันทีเลยละครับ
แต่คนนี้ผมไม่อยากได้แค่มีเรื่องจะตกลงกับเค้านิดหน่อยก็เท่านั้นเอง
หมับ!
ผมเดินตรงเข้าไปหาเค้าก่อนจะคว้าปากกาในมือของคนที่นั่งอยู่เอาไว้พร้อมทั้งรั้งเก้าอี้ให้ออกห่างจากโต๊ะทำงานและพาร่างของตัวเองขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักของเค้าทันทีด้วยเหมือนกัน
ผมเกือบตกเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวแต่ที่แน่ๆ ยังดีอยู่ที่เค้ารั้งเอวผมไว้ได้ทัน…
“ผมจะไม่พูดว่าขอโทษเพราะมันไม่จำเป็นแต่เราต้องมาตกลงกัน”
สายตาดุๆ
นิ่งเฉยมองผมด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกจนทำให้ผมประหม่าไปเลยทีเดียวเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เค้ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“…”
“ผมอยากรู้แค่ว่าทำไมเราต้องจดทะเบียนสมรสกัน”
“…” เงียบมากครับ! ผมเองก็ด้วยพอพูดประโยคเมื่อกี้จบก็เงียบแถมไม่ยอมขยับไปไหนอีกด้วยนอกซะจากว่าเราสองคนจะจ้องหน้ากันอยู่อย่างนี้
“ที่ฉันยอมเพราะมีเหตุผลแต่ถ้าอยากรู้ว่าทำไมเราต้องจดทะเบียนสมรสกันก็คงต้องไปถามปู่ของฉัน”
“มีระยะเวลาไหม?”
หลังจากที่เค้าเงียบไปก็พูดขึ้นมาบ้างแต่บางคำพูดผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“อะไร?”
“เราสองคนต้องมีพันธะต่อกันแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน”
นี่มากกว่าที่ผมต้องการรู้เป็นอันดับต่อไป
“ผมอยากมีอิสระไม่ใช่อยู่แต่ที่บ้านไปวันๆ แบบนี้”
“ระยะเวลาฉันไม่รู้หรอกนะเพราะคนตัดสินใจคือปู่”
“หึ!
คุณจะบอกผมว่า…ถ้าท่านสั่งให้คุณไปตายก็จะไปงั้นเหรอ
ทำไมไม่ปฏิเสธไปละเพราะถึงยังไงเราสองคนก็ไม่ได้รักกันหรือจะพูดให้ถูกไม่มีวันรักกันด้วยซ้ำ
ผมเกลียดคุณและคุณเองก็คงเกลียดผมด้วยเหมือนกัน”
“ก็จริง”
ตึกๆ
ตักๆ
แล้วทำไมไอ้หัวใจบ้านี่ถึงต้องมาเต้นแรงเอาตอนนี้ด้วยละครับ
ทั้งๆ ที่มันน่าจะเต้นตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจกระโดดขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของเค้าแล้วละมั้ง
“งั้นเราต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน”
รู้สึกหมั่นไส้สีหน้านิ่งๆ แบบนี้จังเลยครับ
พอพูดจบผมก็รีบผละออกจากเค้าทันทีแต่กลับไม่สำเร็จเพราะถูกรั้วเอวเอาไว้
“พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงเปิดตัวนายในฐานะภรรยาของฉัน
แต่อย่าดีใจไปเพราะงานนี้คุณปู่ท่านเป็นคนจัดการ”
“ครับ,
คุณสามีหุ่นเชิด!”
ผมพูดจาเหมือนกำลังเยาะเย้ยเค้าก่อนที่จะผลักอกร่างสูงแล้วเด้งตัวลุกขึ้นจากตักของเค้าโดยทันที
ถ้าจะยอมให้คนอื่นบ่งการชีวิตได้ขนาดนี้นะ…ผู้ชายบ้าอะไรก็ไม่รู้
น่าเบื่อ!!!!
วันงาน
ครึกครื้นดีมากครับหลังจากที่เมื่อวานผมกับเค้าก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลยและแน่นอนว่างานวันนี้ถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายที่บ้านหลังนี้
มีพวกนักข่าวแค่ไม่กี่คนที่ได้รับเชิญรวมถึงพวกญาติๆ ของเค้าซึ่งฝั่งผมไม่มีหรือจะพูดให้ถูกพ่อคงตัดหางปล่อยวัดผมไปแล้วละมั้ง
TwT
“ทำไมบ้านเงียบ”
ผมร้องถามหลังจากที่ตื่นขึ้นมาในตอนสายๆ ของวันนี้
ในบ้านเงียบก็จริงแต่นอกบ้านที่สวนด้านหลังใกล้ๆ
กับสระว่ายน้ำกำลังมีผู้คนมากมายจัดแต่งสถานที่กันอยู่
“คุณอาวุธกับคุณซินไปรับคุณท่านที่สนามบินค่ะ”
“ในที่สุดก็ยอมให้เจอหน้าสักทีนะคุณท่านตัวร้าย”
ผมแอบบ่นจนทำให้มาลีกับมาลัยส่งเสียงดุใส่
เพราะเมื่อวานกลางดึกทั้งสองคนอยู่เล่ารายละเอียดของท่านให้ผมฟังจนละเอียดยิบเลยทีเดียว
แต่ไม่น่ากลัวอะไรมากมายสักเท่าไหร่?
หึหึ!!!
แบบนี้ต้องสร้างเรื่องสนุกๆ
ไว้ต้อนรับหน่อยแล้วสิ…
“งั้นก็ออกไปได้แล้ว
ใกล้ถึงเวลางานค่อยขึ้นมา”
“แต่ว่า…”
“มาลี มาลัย”
“รับทราบค่ะ”
พอเจอน้ำเสียงดุของผมเข้าหน่อยทั้งสองก็ยอมเดินออกไปอย่างว่าง่าย
ผมยิ้มกริ่มอย่างผู้มีชัยเหนือคนอื่นๆ
ก่อนที่จะเปิดลิ้นชักหัวเตียงออกมาหยิบยาย้อมผมที่เพิ่งถอยมาใหม่เมื่อวานตอนเย็น
อย่าถามว่าออกไปได้ยังไงแต่ที่แน่ๆ ออกไปซื้อมาแล้วล่ะครับ
รู้สึกถึงความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยละครับ
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าท่านจะรับหลานสะใภ้อย่างผมได้หรือเปล่า…ถ้ารับไม่ได้ผมก็จะได้ไปจากบ้านหลังนี้ซักที แค่คิดก็สนุกแล้วครับ…
“จาวาไฟติ้ง!”
ผมหายเข้าไปในห้องน้ำเป็นเวลานานพอสมควรเพราะมัวแต่จัดการกับสีผมของตัวเองอยู่ดีนะครับที่ซื้อแบบสระมาไม่งั้นคงจะยุ่งยากไปมากกว่านี้แน่นอน
อาบน้ำหรือแช่น้ำเล่นก็ไม่รู้สินะเพราะผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว…
“หึหึ!
งานนี้สนุกแน่” ยืนมองสภาพหัวของตัวเองที่ผ่านการล้างเรียบร้อยแล้วแบบว่าสีฟ้าอร่ามเชียวครับแต่ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่กว่าตอนกลางคืนจะมองเห็นหรือเปล่า
แต่ที่แน่ๆ กลางวันนี้จัดเจนชัวร์
ก๊อก
ก๊อก
ยืนมองสภาพของตัวเองอยู่เสียงประตูห้องน้ำก็ถูกเคาะให้ดัง
ผมเปล่งเสียงถามออกไปแต่ก็ไม่ยอมเปิดประตู…ก็ผมยังอาบน้ำไม่เสร็จนี่ครับ
“ใคร?”
“มาลัยเองค่ะ
คุณอาวุธสั่งให้เอาเสื้อผ้ามาให้คุณหนูจาค่ะ”
“อ๋อ!
วางไว้ที่เตียงเลย”
“คุณอาวุธฝากบอกอีกค่ะถ้าเสร็จแล้วให้รีบลงไปเพราะนี่ก็ใกล้ได้เวลาเริ่มงานแล้ว
พวกญาติๆ เริ่มทยอยมากันแล้วค่ะ”
“รู้แล้วๆ”
ว่าไปนั่น
รอไปเถอะครับเพราะเวลาของผมยังเหลืออีกเยอะ…ผมไม่สนใจมาลัยก่อนจะหันกลับมาสนใจตัวเองเดินกลับไปที่อ้างอาบน้ำก่อนจะแช่น้ำให้สบายใจต่อไป
สรุปเวลาที่ผมอยู่ในห้องน้ำนานเกือบสามชั่วโมงแนะก่อนจะได้เวลาเดินออกมา
ทุกอย่างในห้องดูเงียบสงบมาก
ผมเดินไปที่ประตูก่อนจะล็อกลอนให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวาย
สายตามองไปที่เตียงก็เห็นว่าชุดสำหรับงานคืนนี้วางอยู่…
“อย่าหวังว่าฉันจะใส่
ชิส์!” ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นชุดที่ถูกสั่งตัดวันแรกที่ผมเข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้มั้งครับ
ผมเลิกสนใจก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัว เลือกหาเสื้อยืดคอวีเน้นย้ำว่าวีสุดๆ
มาใส่พร้อมทั้งกางเกงยีนส์ขาสั้น…
เสื้อผ้าพวกนี้ถูกสั่งเก็บไปตั้งแต่วันแรกที่ผมซื้อมาแล้วละครับแต่ด้วยอำนาจของตัวเองและความสะตอนิดหน่อยที่รับปากมาลีมาลัยว่าจะใส่แค่ตอนนอนเท่านั้นผมเลยยังมีมันอยู่ในห้อง
แต่ขอบอกว่าผมแค่สร้างภาพไปงั้นแหละ…
“ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณปู่จะทำยังไง
บางทีอาจเปลี่ยนใจไม่อยากได้ผมเป็นหลานสะใภ้แล้วก็ได้นะครับ”
ผมยิ้มขำกับตัวเองอย่างกับคนบ้าก่อนจะสวมเสื้อผ้าพวกนี้ให้เรียบร้อย
เดินออกมาส่องกระจกเพื่อสำรวจความไม่เรียบร้อยของตัวเอง…
ญาติมาเยอะแล้วไงในเมื่อคนพวกนั้นไม่ใช่ญาติผมสักหน่อย
ก๊อก
ก๊อก
“คุณหนูจาค่ะล็อกห้องทำไม?”
เสียงของมาลีดังขึ้นมาที่จำได้เพราะน้ำเสียงจะแหลมกว่าของมาลัยเยอะเลยครับ
และอีกอย่างถ้าไม่ล็อกก็อดทำตัวเป็นเด็กมีปัญหานะสิ
“แล้วนี่ใกล้เสร็จยังค่ะทุกคนรออยู่”
“เสร็จแล้วครับ”
J
อาวุธก็อาวุธเถอะ เจอจาวาไปแล้วจะหนาว…
แอด///
“ว๊าย!
ตาเถน!!!”
เสียงของมาลีร้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าห้อง
เธอมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลยก็ว่าได้และที่แน่ๆ สีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้พอได้เห็นสภาพที่ไม่เรียบร้อยของผม
“คุณหนูจา!!!” เกือบแล้วครับ มาลีเกือบร้องไห้แล้ว
“ไปเถอะเดี๋ยวแขกจะรอ”
“ไม่ได้นะคะ
ถ้าลงไปทั้งแบบนี้คุณอาวุธเธอต้องโกรธมากแน่ๆ
แล้วนี่ยังจะสีผมคุณหนูจาอีกไปย้อมตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะตอนสายๆ ยังเป็นสีดำอยู่เลย”
“ย้อมเมื่อไม่นานมานี่เอง
ไปเถอะจาหิวแล้ว”
“ไม่ได้ค่ะ
ไปเปลี่ยนชุดกับทำสีผมใหม่ก่อนค่ะ” มาลีรั้งแขนของผมเอาไว้สุดชีวิตจนแทบจะลมทับลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียว
เปลี่ยนชุดนะอาจจะทันแต่ถ้าย้อมผมกลับเป็นสีดำวันนี้คงไม่ทันแล้วมั้งเพราะนี่งานก็เริ่มไปแล้วด้วย
“มาลีปล่อยจา”
ผมชุดกระชากมือของตัวเองให้หลุดจากการจับกุมของมาลีแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายเลยทีเดียวเพราะมาลีดึงมือผมเอาไว้แน่นมากๆ
“บอกให้ปล่อยไง”
“มาลีทำไมยังไม่ตามจาวาลงไปอีก!!!”
นั่นไงเสียงของมหาอำนาจดังขึ้นมาแล้ว
แถมน้ำเสียงของเค้าก็เหมือนกำลังโกรธด้วย “แล้วนี่ยืนฉุดกระชากอยู่กับใคร
เด็กคนนี้ขึ้นมาข้างบนได้ยังไง”
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่าทำไมเค้าถึงถามแบบนี้ก็เพราะว่าผมยืนหันหลังอยู่ในขณะที่มาลีกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องสีหน้าท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว
เดี๋ยวจะทำให้อึ้งไปมากกว่านี้
“ผมเองครับคุณสามี!”
อยากรู้ไหมว่าสีหน้าของเค้าเป็นแบบนี้
ถ้าอยากรู้ก็เดาเลยครับว่าคนที่โกรธมากๆ
เค้าจะแสดงออกมายังไงไม่ว่าจะเป็นสีหน้าหรือแม้กระทั่งท่าทางก็ตาม…
เค้าเงียบและนิ่งมาก
จ้องหน้าของผมราวกับว่าอยากจะฆ่าให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียวและแน่นอนว่าผมต้องการให้มันเป็นอย่างนี้ไม่งั้นคงไม่ลงทุนยั่วโมโหเค้าไปหรอกครับ
ที่ผมทำไปทั้งหมดก็เพื่ออยากเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์ของบ้านหลังนี้…และผมก็หวังว่าการกระทำในครั้งนี้จะทำให้ชีวิตผมกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักที
____________________________________
ครบ %
ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
#ไม่วายมีคุณหนูเดือนสิบสองแทรกแซง ฮาๆๆๆๆๆ
อย่าไปทำตามนะ ไม่งั้นจะเดินตามรอยชัดๆ เลย
จาวาของเจ้ชอบหาเรื่องใส่ตัวตลอดๆ TwT
#ทำพ่อมาเฟียตัวร้ายโกรธหนักแล้วไง
ตอนหน้าจะพาไปผจญภัยกับมาเฟีย ฮาาาาาาาาาา...
และดงกระสุนปืนนนนนน!!!
จาวาของเจ้ชอบหาเรื่องใส่ตัวตลอดๆ TwT
#ทำพ่อมาเฟียตัวร้ายโกรธหนักแล้วไง
ตอนหน้าจะพาไปผจญภัยกับมาเฟีย ฮาาาาาาาาาา...
และดงกระสุนปืนนนนนน!!!
อ๊าว!!! ใมมีแต่รูปเนี่ย!! 0o0 รอต่อปายยยยย
ตอบลบอัพตออออออออ
ตอบลบอัพ สิ ค่ะ
ตอบลบรออยู่ น้าาาาา
เห้ย!! ตัวหนังสือหายไปไหนอ่าาาาาา
ตอบลบเฮ้ย ขอความล่องหนอ่ะ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ช่วยด้วยยยยยยย อิอิ ^^"
ตอบลบอัพต่อเรยสิค่าาาาาา
ตอบลบรอที่เหลือจ้าาา เร็วๆน๊า
ตอบลบรอๆๆๆ อัพๆๆๆๆ
ตอบลบทำไมอาวุธ ทำตัวไม่มีหัวใจแบบนี้อ่ะ(ไม่รักก้ปล่อยไปเซ้)
ตอบลบน่าตบ!! จริ๊งงง
อัพต่อออ อย่าทำให้ค้างจิ
ตอบลบจาวาแร๊งงงงงงส์ แซ่บอ่ะ 555 มาต่อเร็วๆน๊าา
ตอบลบค้างงงง อัพไว้ๆนะฮ่ะะ
ตอบลบหึหึหึ จาวามาแบบจัดเต็มค่ะ อิอิ
ตอบลบอร๊ายยยยจัดไปจาวา
ตอบลบจาวาเธอแซ่บอ๊
ตอบลบ