Bantering, 2
ทีใครทีมัน !!!
ร้ายใส่ก็ดันร้ายกว่า…
แล้วแบบนี้ผมจะชนะเหรอครับ
L
ให้ตายสิเหมือนทุกอย่างจะไม่เข้าข้างผมเสมอไปเลยทีเดียว
พ่อไม่รักดันส่งผมมาอยู่กับใครก็ไม่รู้แถมผู้ชายบ้าคนนี้ก็ดูจะไม่สนใจอะไรเลยนอกจากตัวเอง
วันนี้แหละผมจะต้องรู้ให้ได้ว่า
ทำไมผมต้องแต่งงานกับไอ้แก่บ้าอำนาจคนนี้!!!!!!!
ปัง
ปัง ปัง !!!
อยากไม่เปิดดีนัก
จะเคาะให้ห้องพักเลยคอยดูสิ… สองวันก่อนเพิ่งบอกไปว่าเค้าคือเจ้าของห้องนั้นแต่ไม่ยอมกลับมานอนที่ห้อง
แต่มันก็ดีสำหรับผมห้องตั้งกว้างจะทำอะไรก็ได้
“คุณหนูจาค่ะเดี๋ยวก็โดนดุหรอกค่ะ”
เสียงของมาลัยร้องห้ามเหมือนกำลังอ้อนวอน แต่ผมไม่มีทางเชื่อฟังหรอกครับ
“ไม่!
จนกว่าเค้าจะยอมเดินมาเปิดประตู”
ปัง
ปัง ปัง!!!!!
เคาะอีกครับในเมื่อไม่ยอมเปิดผมก็จะเคาะจนกว่าเค้าจะยอมเดินออกมาเปิดให้…
แอด///
เปิดแล้วครับๆ
แต่ทว่า…
ไม่ใช่เค้าที่เดินมาเปิดประตูแต่กลับเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้ามีแค่ชุดคลุมสีขาวที่สวมทับอยู่เท่านั้นมองเลยไปที่เตียงก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่แสนคุ้นเคยกำลังนั่งพิงหัวเตียงสูบบุหรี่อยู่ท่อนบนเปลือยเปล่า
“นี่มันอะไรกัน”
หล่อนเอ่ยเสียงถามจ้องมองผมด้วยแววตาที่ไม่พอใจ
“ขอโทษด้วยค่ะคุณซิน”
มาลีกับมาลัยต่างก้มหน้าไม่กล้าสบตากับผู้หญิงตรงหน้าผม
แต่เธอกลับมองหน้าผมด้วยสายตาที่รังเกียจ
“นี่คุณพาเด็กนี่มาอยู่ที่บ้านจริงๆ
งั้นเหรอค่ะ” หลอนมองหน้าผมก่อนจะเอ่ยถามคนด้านใน
เสียงฝีเท้าดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่สวมชุดคลุมเดินออกมาที่หน้าประตูผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเค้ากำหมัดเข้าหากันจนแน่น
หึ!
ไอ้แก่บ้าเห็นผมเป็นอะไรกันเนี่ย?
“มาลี
มาลัยพาจาวากับห้องไปซะ” มาลีกับมาลัยขานรับด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักก่อนจะลากผมออกไป
พยายามแล้วที่จะไม่เดินตามแรงลากนี้ไปแต่เหมือนขาทั้งสองข้างมันไม่มีแรงเลยละครับ
ผมจ้องหน้าเค้าจนสุดสายตาก่อนที่จะถูกลากกลับมาที่ห้องแล้วประตูก็ปิดลง
“ปล่อยนะมาลี มาลัย”
ผมดิ้นพล่านจนทั้งสองยอมปล่อยมีอออกไปนั่งคุกเข่าลงกับพื้น
ก่อนจะพูดว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนี้จนผมนึกรำคาญ
“หยุดพูดได้แล้วฉันรำคาญ”
“พวกเราขอโทษนะคะ
แต่คุณอาวุธเธอ…”
“ฉันไม่อยากได้ยินชื่อผู้ชายคนนั้น
ในเมื่อเค้าก็มีคนอื่นอยู่แล้วแต่ทำไมต้องมาจดทะเบียนสมรสกับฉันด้วย!!!
แถมยายผู้หญิงบ้านั่นยังพูดจาเหมือนดูถูกฉันอีก”
ผมไม่รู้ว่ามาลีกับมาลัยรู้อะไรมาบ้างแต่ที่แน่ๆ
ตอนนี้พวกเธอสองคนกำลังถูกผมเหวี่ยงใส่ ผมทั้งแค้นและรู้สึกไม่พอใจสุดๆ ไปเลย
ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน!!!
“…” มาลีกับมาลัยเอาแต่นั่งเงียบไม่กล้าเถียงจนเวลาผ่านไปอารมณ์โกรธของผมเริ่มลดน้อยลง
ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้งจนทั้งสองคนตกใจ
“คุณหนูจาจะไปไหนค่ะ”
ร้องถามพร้อมกันทันทีเมื่อมือของผมจับไปที่ลูกบิดประตู
“ในเมื่ออยู่เฉยๆ
ก็ไม่ได้อะไร เค้าทำได้แล้วทำไมฉันจะทำบ้างไม่ได้”
ผมว่าแสยะยิ้มร้ายกาจจนดูเหมือนจะน่ากลัว
มาลีกับมาลัยลุกขึ้นยืนมองหน้ากันแถมสีหน้ายังบอกได้อย่างชัดเจนว่าสงสัยในคำพูดของผม
“ทำอะไรค่ะหรือว่าจะกลับไปอาละวาดต่อ”
“จะทำแบบนั้นให้เหนื่อยไปทำไม?
หึ!” ผมกระชากประตูก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
มาลีกับมาลัยก็วิ่งตามลงบันไดมาติดๆ พร้อมทั้งร้องเรียกชื่อผม
“คุณหนูจาค่ะ”
“เลิกเรียกได้แล้วรำคาญ
แล้วก็ไม่ต้องตามมานะ”
ผมเดินออกจากบ้านไปเรื่อยๆ
หยุดยืนอยู่ด้านหน้าก็เห็นว่ามีพวกการ์ดใส่ชุดดำยืนอยู่ด้านนอกเต็มไปหมดมากกว่าตอนแรกที่เข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้อีกครับ
แต่ช่างเถอะเพราะมันไม่น่าสนใจเท่ากับรถหรูที่จอดอยู่
“อย่านะค่ะ
พวกเราไม่อยากเห็นคุณหนูจาโดนดุอีก…อย่าท้าทายคุณอาวุธเลยค่ะ”
“จำไว้นะมาลี
มาลัยเพราะคนอย่างฉันยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ แต่ยิ่งทำให้เห็นฉันก็ยิ่งอยากทำตาม”
“หมายความว่ายังไงค่ะ”
“ก็หมายความว่าฉันจะไปนอนกับคนอื่นดูบ้างนะสิ
หึ! แบบนี้ก็เจ๊ากันแล้วใช่ไหม?”
“คุณจา!!!”
ปัง!
บรืน!!!!!
เรียกไปก็เท่านั้นเพราะผมปิดประตูรถแล้วขับออกมาจากบ้านซะแล้ว
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเพราะประตูไม่ยอมเปิดแต่พอเห็นว่าผมไม่ยอมชะลอรถประตูรั้วก็ถูกเปิดออกทันทีผมจึงขับรถออกมาจากบ้านได้สำเร็จ
ในเมื่อไม่ยอมบอกว่าทำไม?
แถมยังมาทำตัวน่ารังเกียจให้เห็นอีก…
อย่าคิดว่าจะร้ายได้มากกว่าคนอย่างจาวา…
ถ้าคิดแบบนั้นคุณคิดผิดครับ
อาวุธ
สวัสดีครับ,
ผมควรจะทักทายแบบนี้ใช่ไหม? แต่ช่างเถอะอย่าไปสนใจกับคำทักทายของผมให้มากเลยครับ
มาเข้าเรื่องดีกว่า…เรื่องบ้าๆ
ที่สามารถเกิดขึ้นกับชีวิตของผมได้เพียงเพราะคำสั่งเดียวของผู้มีพระคุณสูงสุดในตอนนี้
ง
‘คุณปู่’
ผมต้องแต่งงานกับเด็กที่ตัวเองไม่รู้จักแม้แต่หน้าตาจะรู้ก็แค่ชื่อ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแต่ที่แน่ๆ มันคือคำสั่งเด็ดขาดของคุณปู่ที่ผมไม่สามารถขัดได้และตามตรงผมต้องมารับเด็กคนนี้เมื่อสองเดือนก่อนแต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้นเพราะเรื่องราวมากมายไม่ได้ง่ายเสมอไปและถ้าอยากจะมั่นใจว่าเด็กคนนั้นจะปลอดภัยเมื่ออยู่ข้างๆ
ผม เรื่องราวบางส่วนก็ต้องถูกลบออกไปบ้าง
ผมไม่ชอบเมืองไทยสักเท่าไหร่?
ที่ไม่ชอบไม่ใช่เพราะมันแย่แต่เพราะความทรงจำหลายๆ
อย่างที่เจ็บปวดทำให้ผมต้องไปจากที่นี่ทั้งๆ ที่พ่อและแม่ของผมก็เป็นคนไทย
ส่วนเรื่องรากฐานครอบครัวที่ต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศเราค่อยว่ากันดีกว่าครับเพราะผู้ชายอย่างผมความลับเยอะ
โป๊ก!!!
“โอ๊ย!
ซิน” ผมร้องดังขึ้นมาหลังจากที่ประตูห้องถูกปิดลง
“เด็กบ้า!!!” อย่าสงสัยว่าทำไมเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง เพราะซินเธอคือพี่สาวแท้ๆ ของผม
แต่นิสัยอย่าไปพูดถึงเพราะร้ายกาจกว่าผู้ชายอย่างผมซะอีกครับและที่มาโผล่อยู่นี่ได้เพราะผมข้อร้องให้เธอมา
“ทำแบบนี้เพื่ออะไร?
เล่นอะไรไร้สาระทำให้เด็กคนนั้นมองว่าฉันเป็นนางมารร้าย”
“อย่าพูดเหมือนตัวเองเป็นนางฟ้าไปหน่อยเลย”
“อาวุธ!
หนอย! เด็กบ้า”
ป้าแกโกรธครับเพราะไม่ชอบให้ใครขัดหรือเปรียบเทียบตัวเองกับอะไรทั้งสิ้นในทุกกรณี
“ฉันแก่จนมีลูกแล้วนะพี่
เลิกพูดว่าเด็กสักที”
“เพราะนายชอบทำตัวแบบเด็กๆ
ยังไงละ อธิบายมาเลยดีกว่าเรื่องที่ให้เล่นละครตบตาเมียตัวเองเนี่ย”
ซินเดินกลับไปนั่งที่เตียงก่อนจะหยิบบุหรี่มาจุดสูบ
เธอไม่ได้แรงเสมอไปแต่ถ้าให้ผมเดาต้องมีเรื่องเครียดแน่นอนถึงได้สูบบุหรี่แบบนี้
“ฉันแค่อยากลองใจ
เด็กคนนั้นดื้อเกินไปสำหรับฉัน”
“ก็เลยจะให้ฉันมาปราบ”
“ก็ไม่เชิงหรอกนะ
ฉันกลัวเด็กคนนั้นจะ…”
“มันไม่เหมือนกันหรอกนะอาวุธ
อดีตก็คืออดีต…และที่นายบอกว่าเด็กคนนั้นดื้อตามจริงนายไม่อยากยุ่งเกี่ยวซะมากกว่าเพราะกลัวกำแพงที่ตัวเองสร้างขึ้นมา”
ปัง!
พูดจบซินก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับบุหรี่ในมือ
คนอย่างผมนะเหรอจะกลัวอดีตแค่ผมไม่อยากสร้างปัจจุบันใหม่ก็เท่านั้นเอง…ความทรงจำมันเป็นเรื่องที่ไม่อยากลืมแต่ถ้าเราพยายามสร้างมันเพิ่มแล้วเกิดวันหนึ่งมันถูกทำลาย
คนที่ยังอยู่ก็คือคนที่เจ็บปวดไม่ใช่เหรอ?
ผมเลิกคิดเรื่องพวกนั้นก่อนจะเดินออกมาจากห้องตรงไปยังห้องของตัวเองซึ่งยกให้จาวาไปซะแล้ว
เปิดเข้าไปก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่ท่าทางจะลงไปอาละวาดข้างล่าง
ส่ายหัวกับตัวเองกับเด็กคนนี้จริงๆ ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ
ก๊อก
ก๊อก
ผมใช้เวลาในห้องน้ำไม่นานก่อนจะเดินออกมา
เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาพอดีผมเดินไปเปิดก็เห็นว่าเคียวยะยืนอยู่
สีหน้าหมอนี่ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็นิ่งเสมอเหมือนคนที่แบกความทุกข์ไว้ทั้งโลกแนะครับ
“มีอะไร?”
“คุณจาเธอขับรถออกไปข้างนอกครับ”
“ว่าไงนะ
แล้วทำไมถึงไม่ห้าม” ว่าแล้วทำไมบ้านถึงเงียบๆ ก็เพราะตัวป่วนไม่อยู่นี่เอง
แล้วนี่คิดจะทำอะไรอีกละครับถึงได้สร้างปัญหาให้ผมไม่เว้นแต่ละวัน
“ถึงห้ามก็ไม่หยุดหรอกครับ
คุณก็น่าจะรู้”
“เฮ้อ!
แล้วรู้หรือยังว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“คอนโดแถว xxx
ครับ”
หลังจากได้รับรายงานว่าเด็กแสบอยู่ที่ไหนผมก็รีบขับรถออกจากบ้านทันที
ถ้าโดยปกติแล้วผมจะมีเคียวยะเป็นคนขับรถให้พร้อมกับพวกติดตามแต่สำหรับว่านี้ถ้าผมมีพวกการ์ดติดตามไปเยอะมีหวังได้เป็นที่จับตามองกันพอดี
ผมไม่เข้าใจว่าทำไม
แต่ที่แน่ๆ
ถ้าคุณปู่รู้ว่าผมกับเด็กนั่นไม่ลงรอยกันละก็ทุกอย่างก็จบเพราะคำขู่ของท่านยังอยู่ในหัวผมตลอดเวลา
‘ถ้าแกไม่ทำตามคำสั่งของฉันก็เตรียมเดินออกไปจากตระกูลฉันซะหรือแม้แต่ลูกของแกก็ด้วย…’
นี่ละมั้งเหตุผลที่ผมจำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสทั้งๆ
ที่ยังไม่ได้แต่งงานด้วยซ้ำ ทุกอย่างที่ผมทำก็เพื่อลูก
ผมเดินคิดทุกอย่างไปเรื่อยๆ
ตลอดเวลาที่ยืนอยู่ในลิฟต์ เรื่องราวทุกอย่างของผมมันซับซ้อนจนเกินไปและผมเองก็ยังไม่พร้อมที่จะพูดด้วย
ไม่ใช่ว่าไม่พร้อมแต่เพราะผมไม่อยากนึกถึงมันอีกต่างหากละครับ
แอด///
ผมคิดว่าตัวเองมีความสามารถพอที่จะเดินเข้าไปในห้องนี้ได้อย่างตามสบาย
จะอะไรก็ช่างแต่ที่แน่ๆ กินเหล้าที่คละคลุ้งเต็มไปหมด เด็กพวกนี้กะกินกันตั้งแต่หัววันเลยเหรอเนี่ย?
หึ!!!
นั่นไงครับตัวปัญหาของผมกำลังยืนเต้นหราอยู่ต่อหน้าผู้ชายอีกสามถึงสี่คนท่าทางน่าสนุกเชียวแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเมาไม่รู้เรื่องแล้ว
แค่ออกมาไม่นานก็เมาได้ถึงขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ?
ผมเดินตรงไปยังเครื่องขยายเสียงก่อนที่จะกดปิดมันเพื่อหยุดการเริงร่าของบุคคลเหล่านี้
จนเสียงเล็กร้องวีนออกมาทันทีเมื่อถูกขัดจังหวะทั้งๆ
ที่ยังไม่หันกลับมามองผมเลยด้วยซ้ำไป
“นี่!
พวกมึงปิดเพลงทำมายยยยย” น้ำเสียงยานเหมือนคนเมา
“ไม่ใช่พวกกู”
“แล้วใคร!!!”
“โน่นๆ
ข้างหลังมึง” จาวาค่อยๆ หันกลับมาหาผมก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ
เหมือนกำลังเพ่งมองว่าผมคือใคร แต่ที่แน่ๆ ท่าทางแบบนี้มันขัดใจผมซะจริงๆ เลยครับ
ให้ตายสิคุณปู่เลือกใครมาให้ผมกันแน่เนี่ย
“ออกไปให้หมด”
เอียงหน้าไปมองใครอีกสี่คนพร้อมทั้งคำสั่ง
เด็กพวกนี้พอได้ยินเสียงของผมก็พากันวิ่งออกจากห้องแทบไม่ทันเลยละครับ
“งื้อ!
กล้าดียังไงมาออกคำสั่ง” จาวาพุ่งเข้ามาหาผมเร็วกว่าเดิมสองมือเล็กทุบเข้าให้ที่แผงอกแต่ไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ
“กลับบ้าน!” ผมไม่สนใจท่าทางอิดออดแบบเด็กๆ ก่อนจะกระชากร่างเล็กให้เดินตามออกมา แต่จาวากลับดื้อและขัดขืนถ้าผมพาลงไปด้านล่างทั้งแบบนี้มีหวังคนอื่นๆ
ได้คิดว่าผมเป็นพวกโรคจิตแน่นอนเลยครับ
“ไม่กลับ!
ปล่อยๆ ปล่อยสิโว้ย” ท่าทางดื้อๆ ที่ผมไม่ชอบเอาซะเลย
ทำไมต้องเป็นเด็กคนนี้ด้วยนะ
ซ่า
!!!
อ๊ายยยยยยยยยย!!!
“ออกไป ไอ้บ้า…
ฮือๆ หนาวนะ”
ผมลากจาวาเข้ามาในห้องน้ำก่อนที่จะพาร่างเล็กไปยืนอยู่ตรงฝักบัวพร้อมทั้งเปิดน้ำให้ชำระร่างกายตรงหน้า
บางทีน้ำเย็นๆ อาจจะช่วยให้สติของเด็กคนนี้กลับมาบ้างก็ได้
“ฉันเกลียดเด็กอย่างนายที่สุดเลยจาวา”
“ฮือๆ ออกไปนะ
หนาว…” มือเล็กเอาแต่ปัดป้องให้ผมออกห่าง
แต่มีเหรอที่ผมจะยอมในเมื่อจาวายังไม่ได้สติ ร่างเล็กเอาแต่ร้องตะโกนจนน่ารำคาญ
“ฮือๆ
ไม่เอาแล้ว หนาว พอแล้ว…ขอโทษ อะ…อึก ขอโทษ”
หมับ!
ผมรั้งร่างของจาวาเอาไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังจะล้มลงไปกองกับพื้น
แถมคำขอโทษที่เปล่งออกมาเมื่อกี้กลับทำให้ผมรู้สึกผิดเพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง?
“บ้าจริง!
จาวา…จา” พอเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังจะหลับผมก็เรียกสติให้ตื่นขึ้นมาแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเพราะท่าทางของจาวาก็บอกได้อย่างชัดเจนว่าสลบไปซะแล้ว
นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย?
ผมอุ้มร่างเล็กมานอนบนเตียงก่อนจะลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้
แต่จะว่าเปลี่ยนคงไม่ใช่เพราะผมแค่ถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นของเด็กคนนี้ออกแล้วหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมทับให้ก็เท่านั้นเอง
ให้ตายสิ!
ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยต้องมาดูแลใครแบบนี้และไม่คิดด้วย
ครั้งหนึ่งในชีวิตผมก็เคยผ่านมาแล้วแต่ ครั้งนี้ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น… เด็กคนนี้ทำให้ผมรู้สึกแย่และทำอะไรที่ไม่เคยทำออกมาได้แบบไม่ต้องคิด
“อย่าเข้ามาแล้วเปลี่ยนชีวิตฉันก็พอ…ฝันดีนะครับ”
หยุดชะงักใบหน้าของตัวเองเอาไว้ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขยี้หัวไปมาเท่านั้นเอง
ผมเคยพลาดที่ไปจูบเด็กคนนี้เข้าให้…แต่ต่อไปผมคงต้องระวังความรู้สึกตัวเองสินะ
ผมเดินหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกไปหยิบผ้าขนหนูมาสวมทับเอาไว้เดินออกจากห้องน้ำ
ผมไม่รู้ว่าห้องนี้จะใช้ของจาวหรือเปล่าแต่ที่แน่ๆ เสื้อผ้าทุกชิ้นผมใส่ไม่ได้เลยละครับนอกซะจากจะพาของตัวเองให้พนักงานพาไปซักแห้ง
…เฮ้อ!
อ๊ายยยยยยยยยยยยย!!!
“ไอ้จอมบงการ
ตื่นเดี๋ยวนี้นะ…ตื่นสิ ตื่นนนนน!!!”
ผมรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมากเลยทีเดียวกับสิ่งที่ได้รับรู้ในตอนนี้
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ที่แน่ๆ หลับตั้งแต่เมื่อวานจนถึงเช้าวันนี้ที่จาวาอาละวาดใส่เลยละครับ
คงเพราะไม่ได้ผักผ่อนแบบนี้มานานถึงได้หลับจนไม่อยากจะตื่นแบบนี้
“หยุด!
ฉันเจ็บ”
ผมรีบเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงที่นอนอยู่ก่อนจะรั้งข้อมือเล็กทั้งสองข้างเอาไว้จนใบหน้าเล็กกระทบเข้ากับแผงอกผมเต็มๆ
ลมหายๆ ร้อนๆ สัมผัสเข้ากับร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่า
“ปล่อย”
“เลิกอาละวาดก่อนสิฉันถึงจะยอมปล่อย”
“ก็ปล่อยก่อนสิวะ”
“จาวา!” ผมเริ่มไม่พอใจเมื่อจาวาขึ้นเสียงและพูดจาไม่น่ารัก ผมไม่ชอบ…แถมนิสัยเสียๆ ของจาวาท่าทางจะแก้ไขยาก
“มีใครเคยบอกหรือเปล่าว่าอย่าทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาเล่นไปวันๆ
แบบนี้ และอย่าพูดจาหยาบคาย”
“คุณคนแรก
แต่ก็ขอบคุณที่บอกนะครับ” ยิ้มเยาะแถมยังไม่สนใจคำพูดของผมอีกต่างหาก “ทำไมหรือว่าจะจูบผมอีก”
พอเห็นว่าผมเริ่มไม่พอใจก็พูดต่อ
“จาวา!!!!!!”
“หึ!
จูบสิ” ท้าทายผมได้อย่างหน้าตายเฉยมากๆ
ผมไม่รู้ว่าจาวาไปเอานิสัยนี้มาจากไหนแต่ผมไม่ชอบเลย
ถ้าคนตรงหน้าตอนนี้ไม่ใช่ผมคงโดนปล้ำไปแล้วมั้งเนี่ย
“ฉันจะไม่แตะต้องนายอีก!”
สุดท้ายเป็นผมเองที่ต้องผละออกมาลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่สั่งซักแห้งเอาไว้มาใส่
จาวาเงียบไปสักพักก่อนจะกระทืบเท้าเดินเข้ามาใกล้ๆ ผมเหมือนกำลังหาเรื่องใส่ตัว
“ที่บอกว่าจะไม่แตะต้อง
แน่ใจเหรอ…” เดินเข้ามาใกล้ๆ
เหมือนกำลังยั่วแต่สำหรับผมการกระทำของจาวาตอนนี้คือการยั่วโมโหผมซะมากกว่า “คุณมันก็เหมือนคนอื่นๆ
ที่เห็นใครก็ได้เป็นแค่ของเล่นฆ่าเวลา”
“…” ผมไม่เข้าใจว่าทำไม
แต่คำพูดพวกนี้และแววตาที่สั่นระริกกำลังบอกผมว่าจาวากำลังน้อยใจอะไรบางอย่าง
“ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณจะทนได้สักกี่น้ำ”
!!!
“เฮ้ย!
ไอ้จา!” ใบหน้าเรียวเล็กกำลังยื่นเข้ามาใกล้ๆ
ผมแต่กลับถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่ตกใจของผู้มาใหม่ ผมกับจาวาค่อยๆ
หันไปมองก่อนที่คนตรงหน้าจะผละออกไปด้วยความตกใจ
“ไทเป!”
“เออกูเอง!
ไม่คิดว่าไอ้คุณหนูกลับไปแล้วมึงจะมาใช้ห้องต่อ”
“ไอ้…”
หมับ!
“นี่ใคร?”
ผมกระชากแขนเล็กที่กำลังชี้ปลายนิ้วเรียวไปหาคนตรงหน้า
จาวาหันมามองหน้าผมก่อนจะกระชากแขนกลับไปพร้อมทั้งเดินตรงไปหาคนที่กำลังยืนอยู่
“คนนี้นะผัวใหม่
ส่วนคุณแค่ผัวจดทะเบียนสมรสก็เท่านั้นเอง!!!!!”
____________________________
ครบ
หลายคนอาจจะสงสัยกับนิยายเรื่องนี้ แต่ที่แน่ๆ พระเอกเป็นพ่อหม้ายยยยย!!!
ก๊ากกกกกกกกกกกกก...
เพราะอะไรต้องติดตาม เพราะคุณอาวุธเรามีปมเรื่องความรัก
บางทีอดีตอาจทำให้ไม่กล้ารัก #แต่เดี๋ยวเจ้จะให้หนูจาจัดรักแซ่บๆ ให้
หึหึ!!!
พอแระ...
จุ๊บ >////////////////////<
ทำไมทำแบบนี้ รีดไม่อยากจะพูด อยากตบเลยมากกว่า ฮึ่ย ทำไมแแบบนี้ก็เลิกกับจาวา เถอะ
ตอบลบจาวา จาวา
ตอบลบน่าตบจริงๆ
ตอบลบอัพต่อออออออ
รีบๆ มานะฮะะะ
ตอบลบไม่รักแต่ดันบังคับกัน!! มันน่านัก ><
ตอบลบมันน่าตบจริงๆ -.-
ตอบลบอร้ายยยยยย ชอบอ่าาาา แรงดี โดนใจขาโหดม๊ากกกกก
ตอบลบจาวาเอาคืนให้หนัก เอาให้อิอาวุธรู้สึกซะบ้าง ทำแบบนี้ได้ไงเอาจาวามาแต่งด้วยแต่ทำตัวมั่วไม่เลิกแบบนี้ เอาให้หนักกว่าที่อาวุธทำกับจานะ
ตอบลบจาวาน่ารักมากเลยยยยย โครตแสบบอ้ะ
ตอบลบแรงได้ ตัวแสบจาวา
ตอบลบหนูจาร้ายกาจจจจ
ตอบลบกรี๊ดดดดดดดดด ต่อเถอะคะ ส่งสายตาอ้อนวอน
ตอบลบจาวาน้องแรง..อ๊รีบต่อนะ
ตอบลบเอาใจไปเลยจ้าจาวา โอ๊ยยฟิน ><
ตอบลบฮอลลลล คุณอาวุธ รีบตามไปเร็วก่อนที่หนูจาจะเสียซิงไป เร็วๆๆๆ
ตอบลบจาไปไหมอ่า ไปหาพ่อปะ?
ตอบลบจาวาไปไหน คุณอาวุธรีบไปตามเลยนะ
ตอบลบโอ๊ย อะไรเนี่ย
ตอบลบขัดใจอ่ะ อาวุธ ฮึ่ย!!!!!
หนูจาเอาคืนให้สะใจไปเลย5555
อัพ จงอัพ จงอัพ จงอัพ เพี้ยงงง!
ตอบลบเเสบนักน่ะจาวา
ตอบลบอยากถามหนูจาวา ว่า หนูเปนแฝดกับเดือนสิบสองใช่มั้ยลูก นิสัยนี่!!!! สุดๆ!!
ตอบลบติดตามๆ นร่คร่ เรื่องนี้น่าหนุกๆ ชอบเดือนสิบสองกับจาวามร๊วกๆๆ
รีบๆอัพเน้อ เพราะเข้ามาดูทุกวัน วันลร่สองครั้ง จร่อัพตอนไหนนร่าาาา.
จุ๊บๆๆๆ สู้ๆดน๊อ!!! ^_^
รีบอัพนะค่ะ
ตอบลบรออยู่นะ อัพเลยๆๆสนุกมากอ่ะ จาวาแรงได้อีก
ตอบลบจาวานายพูดได้ถูกใจมากอ่ะ "คนนี่น่ะผัวใหม่ ส่วนคุณแค่ผัวจดทะเบียนสมรสก็เท่านั้นเอง" รอนะคะ
ตอบลบไทเปนายซวยจิงๆ 55555
ตอบลบอัพต่อนะ ^^
อัยย่ะ จาวาแรง
ตอบลบอยากเรื่องอาวุธมากอ่ะต่อตอนนี้5555
จาวามาอย่างเเรง อาวุธจะทำไงต่อเนี่ย
ตอบลบเหมือนเดือนสิบสองเร่ยวุ้ย!!!
ตอบลบเปนอีก 1 กำลังใจ จุ๊บๆ
แอร๊ยยยยยย สุดสุดอ่ะ
ตอบลบ